Chapter 3 สิ่งที่ควรรู้ก่อนเปิดแคมเปญ Google ads

‍

และในบทที่สามนี้เราจะมาบอกสิ่งที่จะต้องรู้ก่อนที่คุณจะเปิดแคมเปญ ซึ่ง PPC (pay per click) ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นช่องทาง ทางการตลาด

ที่มีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์สูงสุดในทุกช่องทางอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่รู้วิธีการที่ถูกต้อง ก็ยังเป็นทางที่ง่ายต่อการเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากก่อนที่คุณจะเริ่มแคมเปญแรก จึงมีสิ่งที่คุณจะต้องเตรียมตัวก่อน

Goals

‍

เช่นเดียวกับการตลาดทั่วไป สิ่งที่สำคัญคือต้องกำหนดเป้าหมายของแคมเปญก่อน

ใน PPC สิ่งนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะ เป้าหมายเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดโครงสร้างของแคมเปญของคุณ อีกวิธีในการจัดโครงสร้างเคมเปญของคุณ

ตัวอย่างการทำบางอย่างขึ้นอยู่กับว่าผู้คนได้อยู่ในช่องทางไหนในการตลาดของคุณ

พิจารณาว่าคุณต้องการอะไรจากแคมเปญในการจ่ายเงินกับการค้นหา เป็นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจ ในกลุ่มผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าหรือไม่ สามารถสร้างโอกาสในการขายได้หรือไม่ สามารถเพิ่มยอดขาย และเพิ่มความภักดีกับแบรนด์ได้หรือไม่ หรือต้องการให้คนติดตั้งแอพพลิเคชั่น  ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นแบบไหน ก็ให้กำหนดเป้าหมายมาก่อนเป็นอันดับแรก

Adequate budget : งบประมาณที่เพียงพอ

‍

หากงบประมาณของคุณไม่เพียงพอ โฆษณาของคุณก็จะไม่ขึ้นโชว์มาก มีหลายวิธีที่จะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายใน Google Ads แต่การใช้การกำหนดงบประมาณ

ถือเป็นวิธีการที่แย่ มันหมายถึงว่าคุณจะไม่ได้ คลิก หรือ conversion เพียงพอที่จะนำมาประมวลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญคุณ



Landing pages

‍

เป็นโครงสร้างของแคมเปญที่ดีที่สุด โฆษณาที่ดีและเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งหมด ใน Google Ads , Microsoft Advertising หรือแพลตฟอร์มอื่นๆจะไม่ช่วยอะไรเลยหากคุณไม่มีหน้า Landing page ที่ดี ซึ่งปัจจุบันนี้ โทรศัพท์มือถือ เป็นเครื่องมือค้นหาและคลิกที่รวดเร็วที่สุด ดังนั้นหน้า Landing page บนมือถือจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด Landing page จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรวดเร็ว กับทุกอุปกรณ์ เพื่อสร้างความประทับใจ ให้กับผู้ที่เข้ามาชม และ ผู้ที่กำลังจะทำบางสิ่งในสิ่งที่คุณต้องการ


รายงาน Landing page ในหน้า Google Ads คุณจะพบ “Mobile-friendly click rate” และ ”Valid AMP click rate.” สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้การทำงานบนมือถือบนหน้า Landing pages

นอกจากนี้ยังสามารถเช็ค Mobile-friendliness ของหน้าเพจคุณผ่าน Google’s mobile-friendly test tool


หากเป้าหมายทางธุรกิจของคุณคือการได้รับโอกาสทางการขาย แต่คุณยังไม่มี แบบฟอร์มหรือรูปแบบการสั่งซื้อที่ชัดเจน บนหน้า Landing page แคมเปญของคุณอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คุณต้องการ


หากเว็บไซต์ของคุณขายผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและโฆษณาของคุณสำหรับข้อความค้นหา "รถเข็นเด็ก" จะนำผู้ใช้ไปที่หน้าแรกของคุณแทนที่จะเป็นหน้าหมวดหมู่รถเข็นเด็ก

ผู้เยี่ยมชมส่วนใหญ่จะไม่เสียเวลาไปกับการค้นหาวิธีค้นหารถเข็นเด็กในเว็บไซต์ของคุณ แต่ผู้ใช้จะคลิกกลับไปที่ผลการค้นหาและคะแนนคุณภาพของโฆษณานั้นจะได้รับผล

กระทบ

‍

A testing mindset

‍

แคมเปญของคุณอาจจะไม่ได้ตามที่คุณตั้งใจไว้ในทันที เพราะแคมเปญที่ประสบความสำเร็จ ต้องมีการทดสอบ วิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ การเสนอราคา ไปจนถึงกลุ่มเป้าหมาย และหน้าเพจ ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นส่วนสำคัญทั้งหมด ซึ่งในตอนนี้ระบบมีเครื่องมือทดสอบที่ทันสมัยจึงสามารถเรียนรู้และปรับปรุงเพื่อสร้างโอกาสจากการใช้เครื่องมือเหล่านี้

Dedicated resources (People)

‍

งบประมาณและความซับซ้อนของแคมเปญของคุณจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะต้องใช้เวลาไปกับอะไร จะเป็นการวิเคราห์ข้อมูล หรือ จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพคีย์เวิร์ดที่มีค่าใช้จ่ายของคุณ ซึ่งการเสียเงินโดยใช่เหตุกับการใช้ PPC เป็นเรื่องง่ายมาก เพราะฉะนั้น การเข้าใจและทำในวิธีการที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยให้คุณประหยัดทั้งเงินและไม่เสียเวลาด้วย



และในบทต่อไปนั้น เราจะพูดถึงในเรื่องของ เครื่องมือการติดตามและการวัดผลแคมเปญของคุณ
‍

cr: searchengineland.com

‍

‍

{{CTA="/blog"}}