การทำ content เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่มีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งดึงดูดให้ลูกค้ารู้สึกสนใจในแบรนด์ของเรา ทั้งทำให้กลุ่มเป้าหมาย เปลี่ยนใจเลื่อนขั้นกลายเป็นลูกค้า ทั้งทำให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อใหม่ ทั้งทำให้ลูกค้าทั้งรายเล็กและรายใหญ่บอกต่อสินค้าบริการของเรา
ทุกวันนี้การสร้างแบรนด์หรือการทำโฆษณาผ่านทางโลกออนไลน์นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการทำการตลาดที่กำลังได้รับความนิยม จึงก่อให้เกิดการแข่งขันในการสร้างสรรค์และผลิตคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่จะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตและเป็นที่รู้จักผ่านทางโลกออนไลน์มากขึ้น
ซึ่งการผลิตคอนเทนต์ ประเภทวิดีโอ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการผลิตคอนเทนต์ ที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ และอาจจะมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยม มากขึ้นไปอีกในอนาคตเช่นกัน
เป็นเทรนด์ในการทำวีดีโอแบบสั้น มีความยาวประมาณ 15-30 วินาที สำหรับการลงในช่องทาง Social media ต่าง ๆ
วิดีโอรีวิวที่สามารถนำเสนอความรู้สึกของลูกค้าจริงที่มีต่อผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ เพื่อสร้างความมั่นใจและผลักดันให้ลูกค้าพิจารณาและตัดสินใจซื้อ
หลายแบรนด์เลือกใช้วิดีโอประเภทอนิเมชั่น เพราะเป็นรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่าย สามารถสื่อสารข้อความผ่านตัวละครที่เป็นการ์ตูน หรือมาสคอตของแบรนด์ ทำให้ผู้ชมสามารถเพลิดเพลินในการรับชม และจดจำมาสคอตของแบรนด์ได้อย่างง่ายดาย
ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอสัมภาษณ์ การพบปะสังสรรของบริษัท หรือการประชุม ซึ่งช่วยดึงดูความสนใจของผู้ชมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยเก็บความประทับใจในงานได้อีกด้วย
เทรนด์การ Live หรือการถ่ายทอดสด เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มักจะพบเห็นได้บ่อยในธุรกิจเสื้อผ้าหรือในกลุ่มธุรกิจที่มีผู้ติดตามที่มากในระดับหนึ่ง ซึ่งวิธีการนี้ยังเป็นการเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มลูกค้าและตัวธุรกิจ
เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจและมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่เริ่มใช้เวลาอยู่บ้านและใช้เวลาไปกับการใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้น ดังนั้นการมองหาคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์จึงเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจ
วิดีโอเพื่อสาธิต แสดงวิธีการทำงานของสินค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของคุณ ซึ่งเป็นรูปแบบวิดีโอที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าสำหรับสินค้าที่อาจมีความซับซ้อนในการใช้งาน แนะนำการใข้งานเพื่อทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าสินค้าสามารถใช้ได้จริง
ถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากคุณมีการเตรียมขั้นแรกได้ดี ขั้นตอนต่อ ๆ ไปจะง่ายขึ้นอย่างมาก
1. การวางโครงเรื่อง (Story)
การคิด Concept โครงเรื่อง วางจุดประสงค์ของวิดีโอ เป็นสิ่งแรกที่ต้องทำ เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการค่อนข้างสูง โดยโครงเรื่องเป็นการกำหนดแนวทางการเขียน การเรียบเรียงข้อมูล จัดลำดับหัวข้อต่าง ๆ โดยโครงเรื่องที่ดีนั้นจะต้องมีการรวบรวมข้อมูลจากหลายด้าน ขึ้นอยู่กับประเภทของวิดีโอ
2. การเขียนบท (Script)
หลังจากวางโครงเรื่องแล้ว สามารถเริ่มการเขียนบท หรือ Script ซึ่งเป็นการกำหนดลำดับก่อนหลังและระบุลักษณะที่ชัดเจนของการนำเสนอภาพและเสียง รวมไปถึงการเขียนออกเป็นตัวอักษรและเครื่องหมายต่าง ๆ เพื่อสื่อความหมายให้ทีมงานรับทราบและทำตามหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์
3. การเขียนบทภาพ (Storyboard)
สตอรี่บอร์ด หรือบทภาพ คือการสร้างภาพให้เห็นลำดับของการเล่าเรื่อง เป็นการทำภาพร่างของฉากต่าง ๆ เพื่อกำหนดการเล่าเรื่อง ลำดับเรื่อง เสียงเพลงประกอบ มุมกล้อง และเวลา ช่วยทำให้คุณบอกเล่าในสิ่งที่อยากนำเสนอได้อย่างลื่นไหล อยู่ในขอบเขต อีกทั้งยังช่วยตรวจสอบได้ด้วยว่าทำซีนไหนไปบ้างแล้ว
คือขั้นตอนการผลิตหรือถ่ายทำ โดยจะนำแผนการดำเนินงานที่วางไว้ในส่วนของ Pre-Production มาปฏิบัติจริง
1. การบันทึกวิดีโอ (Video Recording)
การถ่ายทำและบันทึกวิดีโอจริง มีทั้งการถ่ายทำในสถานที่ และการถ่ายทำนอกสถานที่ ซึ่งจะมีลำดับขั้นตอนการทำงานใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมอุปกรณ์ ประสานงาน ซักซ้อม และถ่ายทำตามที่วางแผนไว้ โดยการถ่ายทำในสถานที่นั้น จะมีข้อได้เปรียบในเรื่องของการควบคุม แสง เสียง และฉากได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องดินฟ้าอากาศมากกว่าการถ่ายทำนอกสถานที่
2. การบันทึกเสียง (Sound Recording)
การบันทึกเสียงดนตรี เสียงบรรยาย และเสียงประกอบต่าง ๆ สำหรับวิดีโอ อาจเป็นการบันทึกเสียงพร้อมวิดีโอเลย หรือบันทึกเสียงแยกซึ่งส่วนมากมักเป็นการบันทึกเสียงในสตูดิโอ ทั้งเสียงพูด เสียงเครื่องดนตรี หรือเสียงสังเคราะห์ อาจมีการอัดเสียงพูด และเสียงธรรมชาติจากสถานที่จริงได้ด้วยเช่นกัน
1. การจัดการไฟล์วิดีโอและเสียง
ไฟล์แต่ไฟล์ที่ได้จากการถ่ายทำในขั้นตอน Production นั้น ถูกเรียกว่า ฟุตเทจ (Footage) โดยหากมีการใช้กล้องมากกว่าหนึ่งตัว หรือมีการถ่ายทำหลายเทค จะทำให้มีฟุตเทจเยอะมาก ดังนั้นหากมีการจัดการที่ดี ก็จะทำให้ใช้เวลาในการเลือกฟุตเทจน้อยลง
2. การตัดต่อวิดีโอ (Editing)
เป็นขั้นตอนที่นำภาพมาตัดต่อให้เป็นเรื่องราวตามที่ต้องการและวางไว้ในขั้นตอน Pre-Production โดยในปัจจุบันมักใข้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการตัดต่อ รวดเร็วและมีข้อผิดพลาดค่อนข้างน้อย ซึ่งในขั้นตอนของการตัดต่ออาจจะมีการทำกราฟฟิก ปรับแต่งสี และการใส่เอฟเฟคต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทั้งนี้ระยะเวลาในการทำงานมักขึ้นอยู่กับความยาวของวิดีโอ
หลังจากนั้นจะมีการนำมาฉายเพื่อเช็คความเรียบร้อย และตรวจสอบว่ามีอะไรต้องปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ เมื่อมั่นใจว่าวิดีโอสมบูรณ์แบบแล้ว สามารถส่งเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายและเผยแพร่ออกสู่สาธารณะได้เลยซึ่งทีมงานตำแหน่งเหล่านี้เป็นเพียงการเริ่มต้น Video Production ระดับมืออาชีพขั้นต้นเท่านั้น ในความเป็นจริงอาจจะต้องมีทีมงานจำนวนมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับขนาดความยาวของวิดีโอ ความยากง่าย และสถานที่ รวมถึงจำนวนวันที่ใช้ในการถ่ายทำด้วย
ซึ่งทีมงานตำแหน่งเหล่านี้เป็นเพียงการเริ่มต้น VDO Production ระดับมืออาชีพขั้นต้นเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะต้องมีทีมงานมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับขนาดความยาว ความยากง่าย และสถานที่ รวมถึงจำนวนวันถ่ายทำ
ติดต่อจ้างเราWe'll keep you update with the lastest technology and marketing via Email!
ในปัจจุบันแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ก็ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลาย ๆ อย่างที่เอื้อต่อการทำ Video Productionสำหรับประเภทของ VDO Production ก็มีอยู่หลากหลาย ซึ่งสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณได้
เป็นเทรนด์ในการทำวีดีโอแบบสั้น มีความยาวประมาณ 15-30 วินาที สำหรับการลงในช่องทาง Social media ต่าง ๆ
เทรนด์การ Live หรือการถ่ายทอดสด เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มักจะพบเห็นได้บ่อยในธุรกิจเสื้อผ้าหรือในกลุ่มธุรกิจที่มีผู้ติดตามที่มากในระดับหนึ่ง ซึ่งวิธีการนี้ยังเป็นการเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มลูกค้าและตัวธุรกิจ
วิดีโอรีวิวที่สามารถนำเสนอความรู้สึกของลูกค้าจริงที่มีต่อผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ เพื่อสร้างความมั่นใจและผลักดันให้ลูกค้าพิจารณาและตัดสินใจซื้อ
เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจและมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่เริ่มใช้เวลาอยู่บ้านและใช้เวลาไปกับการใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้น ดังนั้นการมองหาคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์จึงเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจ
หลายแบรนด์เลือกใช้วิดีโอประเภทอนิเมชั่น เพราะเป็นรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่าย สามารถสื่อสารข้อความผ่านตัวละครที่เป็นการ์ตูน หรือมาสคอตของแบรนด์ ทำให้ผู้ชมสามารถเพลิดเพลินในการรับชม และจดจำมาสคอตของแบรนด์ได้อย่างง่ายดาย
วิดีโอเพื่อสาธิต แสดงวิธีการทำงานของสินค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของคุณ ซึ่งเป็นรูปแบบวิดีโอที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าสำหรับสินค้าที่อาจมีความซับซ้อนในการใช้งาน แนะนำการใข้งานเพื่อทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าสินค้าสามารถใช้ได้จริง
ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอสัมภาษณ์ การพบปะสังสรรของบริษัท หรือการประชุม ซึ่งช่วยดึงดูความสนใจของผู้ชมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยเก็บความประทับใจในงานได้อีกด้วย