Back

อยากเป็นเจ้าของแบรนด์ในยุคดิจิทัล เริ่มต้นอย่างไรดี

Fast Fact

Fast Fact

Fast Fact

สิ่งที่น่าสนใจ

การสร้างแบรนด์ (Branding) คือ การสร้างภาพลักษณ์ สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง รวมถึงแสดงตัวตนของแบรนด์ออกมาอย่างชัดเจน เพื่อสื่อสารคุณค่าของแบรนด์ออกไปสู่สายตาผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายหลักคือ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความประทับใจ รับรู้ตัวตนของแบรนด์และจดจำแบรนด์เราได้ รู้ว่าแบรนด์เราคือใคร แบรนด์เราทำเกี่ยวกับอะไร โดยการที่เราจะประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ได้นั้น ต้องอาศัยการเรียนรู้ การวางแผน การกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดต่าง ๆ อย่างมากมาย 

ซึ่งพอโลกเราเข้าสู่ยุคดิจิทัลแล้ว ผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างมาก ดังนั้นเราจำเป็นต้องผสมผสานกลยุทธ์ดั้งเดิมเข้ากับเครื่องมือการสื่อสารในยุคดิจิทัลแบบใหม่ รวมถึงใช้กลวิธีใหม่ ๆ เพื่อสื่อสารไปยังผู้บริโภคอย่างตรงจุดให้เกิดการรับรู้แบรนด์อย่างแท้จริง เราจึงขอแนะนำวิธีการสร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัลให้ประสบความสำเร็จ ดังนี้ครับ

กำหนดพันธกิจของแบรนด์ (Brand Mission) เพื่อเริ่มสร้างแบรนด์!

ในช่วงที่เราสร้างแบรนด์ สร้างธุรกิจขึ้นมา สิ่งสำคัญที่เราต้องรู้เลยคือ เราสร้างธุรกิจมาเพื่ออะไร ? สร้างมาทำอะไร ? อยากให้แบรนด์บรรลุผลอย่างไร ? ถ้าหากเรากำหนดพันธกิจจุดมุ่งหมายของแบรนด์อย่างชัดเจน ทุกคนภายในองค์กรสามารถรับรู้เป้าหมายของแบรนด์ตรงกันได้ จะส่งผลให้แบรนด์มีทิศทางการเติบโตที่ชัดเจน แบรนด์จะอยู่ในจุดที่เราอยากให้เป็นจริง ๆ ดังนั้นการกำหนดพันธกิจแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่ทำให้แบรนด์บรรลุผลและประสบความสำเร็จได้

กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เป็นการช่วยให้สร้างแบรนด์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

การกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ขั้นตอนนี้ส่งผลต่อการกำหนดทิศทางกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่จะปล่อยออกไปเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นเราต้องทำความรู้จัก กลุ่มเป้าหมาย (Target) ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย ว่ากลุ่มเป้าหมายมีความต้องการอะไร กลุ่มเป้าหมายมีความชอบอย่างไร หากเรารู้จักกลุ่มเป้าหมายดีมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจของเรา เพราะทำให้เราสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ได้กลุ่มเป้าหมายมาเป็นลูกค้าของแบรนด์ได้อย่างแท้จริง

สามารถลองศึกษาวิธีการหากลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียด เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าอย่างแม่นยำได้ที่นี่

เริ่มสร้างแบรนด์ผ่านการวิเคราะห์คู่แข่ง

ทำการศึกษาคู่แข่งในตลาด ด้วยการสังเกตความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง เช่น กิจกรรมทางการตลาด จุดยืนของแบรนด์ ข้อดี ข้อเสียต่าง ๆ เราต้องสังเกตแล้วนำมาวิเคราะห์ เพื่อสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน (Competitive advantage) ให้กับธุรกิจของเรา ถ้าหากเราออกแบบและวางกลยยุทธ์ให้แบรนด์ของเราโดดเด่นกว่า แตกต่างกว่า สื่อสารออกมาได้ดีกว่าแบรนด์อื่น ๆ จะยิ่งทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ของเราได้อย่างชัดเจน

รับออกแบบโลโก้

สร้างแบรนด์ผ่านการทำอัตลักษณ์ (Brand identity)

เมื่อเราได้ทำการกำหนดพันธกิจ กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษาคู่แข่งในตลาดทั้งหมดแล้ว จนสามารถสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน และหาข้อที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การกำหนดอัตลักษณ์ให้กับแบรนด์ หรือเรียกอีกชื่อว่า Corporate Identity (CI) คือ การสร้างแบรนด์ ให้สื่อสารออกมาในทิศทางที่อยากผู้บริโภคจดจำสิ่งเหล่านั้นที่เกี่ยวกับแบรนด์ได้ เพื่อสะท้อนให้เห็นคุณค่าของแบรนด์ รวมถึงสามารถสร้างโอกาสการเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี ซึ่งการสร้างอัตลักษณ์แบรนด์แบ่งออกเป็น 4 แบบด้วยกัน คือ

  • Graphic Indentity : การสร้างอัตลักษณ์ผ่านการออกแบบโลโก้ รูปภาพ ตัวหนังสือ สี ลวดลาย
  • Sensorial Identity : การสร้างอัตลักษณ์ที่สัมผัสด้วยประสาทสัมผัส เช่น รส รส กลิ่น เสียง รูปร่าง ลักษณะ พื้นผิวสัมผัส
  • Behavior Identity : การสร้างอัตลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรมของผู้บริโภค (Customer Journey)
  • Functional Identity : การสร้างอัตลักษณ์ที่เน้นคุณสมบัติของแบรนด์หรือสินค้า

การกำหนด Brand Character (ตัวตนของแบรนด์)

ในปัจจุบันการสื่อสารคอนเทนต์ออกมาสู่ผู้บริโภค ส่วนใหญ่จะใช้ช่องทางออนไลน์อย่าง Social Media เป็นหลัก เนื่องจากมีต้นทุนที่ไม่แพง และเจาะกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง แต่จะทำไรอย่างไรให้ผู้บริโภคจดจำคอนเทนต์และแบรนด์ที่เป็นผู้สื่อสารคอนเทนต์ออกมาได้ เราจึงต้องอาศัยตัวช่วยอย่างการกำหนด Brand Character (ตัวตนของแบรนด์) ที่ใช้ศาสตร์ร่วมหลัก ๆ อยู่ 2 ศาสตร์ คือ Brand Personality และ Brand Archetypes ซึ่งตัวช่วยในการกำหนดบุคลิกภาพและลักษณะนิสัยที่สะท้อนความเป็นตัวตนแบรนด์ออกมา เพื่อสร้างการรับรู้ และประสบการณ์ร่วมบางอย่างให้แก่ผู้บริโภค 

โดยวิธีการกำหนดตัวตนของแบรนด์ ทำได้ดังนี้

  1. เลือกคำที่คิดว่าอยากให้แบรนด์มีบุคลิกภาพและนิสัยที่สะท้อนออกมาแบบในที่เราอยากให้เป็น โดยเลือกจากในภาพนี้

อยากเป็นเจ้าของแบรนด์
ที่มา https://www.bystudio.com/discover-brand-personality/brand-personality-exercise/

  1. นำคำที่เลือกไปวางใส่ช่องเหล่านี้

สร่าง Brand
ที่มา https://www.finien.com/2015/06/how-to-define-your-brand-personality/

โดยนอกเหนือจากกำหนดตัวตนแบรนด์ 2 ข้อ ข้างต้นนั้นแล้ว เรายังมีวิธีอื่นในการกำหนดตัวตนแบรนด์ นั้นคือ Brand Archetypes ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 12 แบบด้วยกัน ดังนี้เลย

ที่มา https://www.stickertoyou.com/brand-charator-คืออะไร.html

  • ผู้นำ (Ruler) คือ บุคลิกที่ชอบควบคุม ชอบจัดการ มีความทีเด็ด ชอบอำนาจ เช่น Rolex, Benz, British Airways, AMEX
  • ผู้ห่วงใย (Caregiver) คือ บุคลิกที่ชอบดูแล ชอบห่วงใย รักคนอื่นๆ เช่น  Johnson & Johnson, Volvo, Ford
  • นักสร้างสรรค์ (Creator) คือ  บุคลิกที่ชอบคิดอะไรใหม่ๆ สร้างสรรค์ นอกกรอบ ไม่ซ้ำแบบเดิมๆ เช่น  LEGO, Adobe, Starbucks, Pixar
  • นักผจญภัย (Explorer) คือ บุคลิกที่ชอบความท้าทาย ออกไปเผชิญโลกกว้าง ไม่หยุดนิ่ง เช่น  Redbull, Jeep, Go Pro, The North Face
  • ผู้รู้ (Sage) คือ บุคลิกที่มีความฉลาด ปราดเปรื่อง มีความรู้ เช่น  Google, IBM, Wikipedia, Audi, National Geographic, CNN
  • ผู้บริสุทธิ์ (Innocent) คือ บุคลิกที่มีความสดใส เป็นมิตร ไม่มีพิษมีภัย เช่น Coke, McDonald, Dove
  • วีรบุรุษ (Hero) คือ บุคลิกที่มีความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ชอบการแข่งขัน เช่น Land Rover, Nike, Adidas, FedEx
  • ผู้วิเศษ (Magician) คือ บุคลิกที่สร้างสรรค์สิ่งที่น่าเหลือเชื่อ มหัศจรรย์ เช่น Disney, Tesla, Apple
  • ผู้นอกเหนือกฎ (Outlaw) คือ บุคลิกที่ชอบคิดต่าง มีความท้าทาย ไม่ตามใคร เช่น  Harley, Diesel, Levi, Virgin
  • ผู้สนุกสนาน (Jester) คือ บุคลิกที่มีความสดใส ร่าเริง เช่น  M&M, Skittles, Barcidi
  • คนธรรมดา (Everyman) คือ บุคลิกที่เรียบง่าย เข้าได้กับทุกคน เช่น  KitKat, IKEA, KFC, Ebay
  • คนรัก (Lover) คือ บุคลิกที่มีความดึงดูด มีเสน่ห์ น่าค้นหา เช่น  Magnum, Dior, Chanel, AXE

สร้างแบรนด์ผ่าน Social Media ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง!

ในยุคนี้การสื่อสารคอนเทนต์ออกมาผ่านสื่อออนไลน์เป็นที่นิยมกันอย่างมาก ผู้คนมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย พกสมาร์ทโฟนตลอดเวลา ดูโทรทัศน์น้อยลง ดังนั้นการสื่อสารคอนเทนต์ออกมาผ่าน Social Media จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง แต่ไม่ใช่ทุกคอนเทนต์ที่จะบรรลุผลตามที่คาดหวังได้ เพราะฉะนั้นเราต้องเลือกช่องทางการสื่อสารให้ถูกต้องกับคอนเทนต์ที่ต้องการสื่อออกไป โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการทำคอนเทนต์ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายของคอนเทนต์นั้น ๆ คือใคร เราจึงจะเลือกช่องทางการสื่อสารคอนเทนต์ได้ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด

สร้างแบรนด์ผ่านการทำ community ช่วยให้ลูกค้าติดใจ

กลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์ที่ดีของแบรนด์กับลูกค้า เป็นกลยุทธ์เบสิกที่ทุกแบรนด์ใช้กัน เนื่องจากการรักษาฐานลูกค้าเก่าง่ายกว่าการหาลูกค้าใหม่อยู่แล้ว ดังนั้นแบรนด์ต้องมีทักษะการสื่อสารออกมาดีต่อผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความไว้วางใจ เชื่อถือ อยากใช้แบรนด์ของเราต่อ ซึ่งถ้าผู้บริโภคเกิดความพึงพอใจมากกว่าที่คาดหวังไว้ ผู้บริโภคจะรู้สึกดีกับแบรนด์ มีภาพจำที่ดีต่อแบรนด์ เกิดความจงรักภักดีกับแบรนด์ (Brand Loyalty) กลับมาซื้อซ้ำหรือเกิดการบอกต่อแบบปากต่อปากได้ ฉะนั้นการรักษาความสัมพันธ์ของแบรนด์กับลูกค้าเป็นอีกสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการสร้างแบรนด์

ซึ่งพอโลกของเราเข้าสู่ยุคดิจิทัล ที่ใคร ๆ ก็มีเครื่องมือการสื่อสารในการทำคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ ก็ส่งผลให้มีแบรนด์ใหม่ผุดขึ้นมากมาย มีการแข่งขันที่สูง เป็นเจ้าของแบรนด์ได้อย่างหลากหลาย ทำให้เกิดคู่แข่งในตลาดที่ล้นหลาม แต่ก็ยังมีหลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์เนื่องจากบางคนนำกลยุทธ์ต่าง ๆ ไปใช้ โดยยังไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงว่าใช้เพื่ออะไร ? ไม่มีกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ชัดเจน คิดว่านำกลยุทธ์เหล่านั้นมาใช้เพียงครั้งเดียวแล้วจบ

ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ผู้บริโภคไม่สามารถจดจำแบรนด์เราได้ในระยะเวลาสั้น ๆ อย่างแน่นอน การสร้างแบรนด์นั้นเป็นกระบวนวิธีการที่ต้องอาศัยความอดทน ทุ่มเท ให้เวลา ใส่ใจ เน้นความสม่ำเสมอ ใช้เวลาระยะยาว ซึ่งผู้ที่มีความตั้งใจแน่วแน่และมีกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ชัดเจน จะส่งผลให้ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์อย่างแน่นอนครับ

หากคุณกำลังมองหาบริษัทมืออาชีพที่จะช่วยคุณสร้าง Branding ที่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกับธุรกิจของคุณ ทางเรา BEP Digital Agency ยินดีให้คำปรึกษา เพื่อทำให้แบรนด์ของคุณออกมาสมบูรณ์ที่สุด และทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ทางเรายังมีบริการ Digital Marketing, Google Ads, SEO, Social Media Ads และบริการอื่น ๆ ในเรื่องของการ ออกแบบเว็บไซต์ อย่าง UX/UI และ Webflow อีกด้วยครับ

{{CTABrand="/blog"}}

Blogs Recommended

Become a client

Our clients get the best results when they have our team dedicated to their business for extended periods of time.

This is why we are looking for ongoing collaboration where our professionals are like your team members who just happen to be remote. Ready to move forward?

Blog image
Thank you! Your submission has been received!
Oops! Something went wrong while submitting the form.

Head Office

719  Mint Tower
Banthat Thong Road, Wang Mai, Pathum Wan district, Bangkok 10330

Phone

095-834-2460

Back to top