ในยุคที่การสื่อสารผ่านรูปภาพและ Video ได้รับความนิยมอย่างมาก หลาย ๆ ธุรกิจจึงเลือกที่จะใช้ Motion Graphic หรือภาพกราฟิกแบบเคลื่อนไหว เป็นเครื่องมือในการโปรโมทสินค้าและบริการให้กับธุรกิจของตัวเอง ทั้งการทำการตลาดออนไลน์ หรือการสร้างภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจ

‍

ในบทความนี้จะมาอธิบายขั้นตอนเริ่มต้นของการทำ Motion Graphic นั่นคือการวิเคราะห์โจทย์ธุรกิจ รวมทั้งแนะแนวทางในการเปลี่ยนคอนเทนต์เดิมที่มีอยู่ให้เป็น Video Content ให้โดดเด่นสะดุดตา เพื่อให้คุณนำไปพัฒนาคอนเทนต์ให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

‍

‍

วิเคราะห์โจทย์ธุรกิจ ขั้นตอนเริ่มต้นก่อนทำ Motion Graphic

‍

การจะทำ Motion Graphic ได้นั้นจะต้องมีการวิเคราะห์โจทย์ธุรกิจก่อน เพื่อให้สามารถผลิตชิ้นงานออกมาได้ตอบโจทย์และสอดคล้องกับเป้าหมายของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขั้นตอนการวิเคราะห์โจทย์ธุรกิจก่อนที่จะทำ Motion Graphic มีดังนี้

‍

‍

1. กำหนดวัตถุประสงค์ในการทำ Motion Graphic

ก่อนจะทำ Motion Graphic ต้องเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ในการทำของธุรกิจนั้น ๆ ก่อนว่าต้องการบรรลุเป้าหมายอะไร เช่น ใช้โปรโมทสินค้าหรือบริการ ใช้สร้าง Brand Awareness ใช้ในการให้ความรู้ หรือใช้เพิ่มยอดขาย ฯลฯ เพื่อให้สามารถออกแบบได้ตรงกับความต้องการและสื่อสารออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

‍

2. ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย

เมื่อกำหนดวัตถุประสงค์ได้แล้ว ต่อไปคือการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายว่าอยู่ในกลุ่มใด มีอายุเท่าไร เพศอะไร มีความสนใจในด้านไหน และมีพฤติกรรมในการใช้สื่อออนไลน์อย่างไร เพื่อให้สามารถออกแบบ Motion Graphic ออกมาได้ตรงตามลักษณะของผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด

‍

3. วิเคราะห์ข้อความและเนื้อหาที่ต้องการสื่อ

สิ่งสำคัญในการทำ Motion Graphic คือการวิเคราะห์ข้อความและเนื้อหาที่ต้องการจะสื่อว่าอยากให้มีลักษณะอย่างไรบ้าง เช่น เป็นข้อความโปรโมทสินค้า อธิบายคุณสมบัติ หรือเป็นข้อความให้ความรู้ ฯลฯ และควรมีเนื้อหาที่ไม่ยาวจนเกินไป สามารถสื่อสารให้เข้าใจได้ในระยะเวลาอันสั้น เช่น เน้นจุดเด่นของสินค้าและบริการ ฯลฯ

‍

4. เลือกช่องทางในการเผยแพร่

หลังจากนั้นจะเป็นการวางแผนว่าจะเลือกเผยแพร่ Motion Graphic ผ่านช่องทางใดบ้าง เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ถูกจุด โดยสามารถเลือกได้หลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย Email Marketing หรือการโฆษณาทางดิจิทัลอย่าง Google Ads หรือ Facebook Ads ฯลฯ

‍

5. คำนวณงบประมาณ

การตั้งงบประมาณเป็นสิ่งสำคัญในการทำ Motion Graphic เพราะจะช่วยให้สามารถกำหนดขอบเขตของการทำงานได้อย่างเหมาะสม ทั้งในเรื่องของตัวงานอย่าง 3D หรือ 2D Animation และ Motion Graphic จะมีราคาไม่เท่ากันตามระดับความซับซ้อนของงาน

‍

6. ตั้งเกณฑ์ในการวัดผล

สุดท้ายคือการตั้งเกณฑ์ในการวัดผลว่า Motion Graphic สามารถทำตามเป้าหมายอะไรได้บ้าง เช่น ยอด Views บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ หรือจำนวนการมีส่วนร่วมของผู้ชม เช่น การกด Like, กด Share หรือการ Comment ฯลฯ 

‍

เมื่อเข้าใจในโจทย์ธุรกิจแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำคอนเทนต์เดิมที่มีอยู่มาปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบของ Video Content 

‍

‍

เปลี่ยนคอนเทนต์เดิมให้เป็น Video Content ที่โดดเด่นสะดุดตา

‍

ในกรณีที่คุณมีคอนเทนต์เดิมอยู่แล้ว แต่ต้องการทำให้เป็น Motion Graphic สามารถนำคอนเทนต์เดิมมาทำเป็น Video Content ที่มีความโดดเด่นสะดุดตามากขึ้นได้ โดยมีแนวทางในการทำดังนี้

‍

‍

1. มี Storytelling ที่น่าสนใจ

หากคุณต้องการให้คอนเทนต์เดิมของคุณกลายเป็น Video ที่โดดเด่นสะดุดตา ต้องเริ่มจากการมี Storytelling ที่ดีและน่าสนใจก่อน และต้องเป็นไปตามโครงสร้างของการเล่าเรื่องอย่างชัดเจน การมี Storytelling ที่ดีจะช่วยให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมไปกับ Video ของคุณได้

‍

2. เปลี่ยนคอนเทนต์เดิมให้เป็น Motion Graphic

การเปลี่ยนคอนเทนต์เดิมให้เป็น Motion Graphic จะช่วยให้คอนเทนต์ของคุณมีความน่าสนใจมากขึ้น สามารถเล่าข้อมูลที่มีความซับซ้อนให้ออกมาเข้าใจได้อย่างง่ายดายภายในระยะเวลาสั้น ๆ และยังช่วยดึงดูดผู้ชมได้มากขึ้นอีกด้วย

‍

3. เลือกใช้เพลงประกอบให้น่าสนใจ

ตัวช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับ Video ของคุณคือดนตรีและเพลงประกอบ โดยคุณจำเป็นต้องเลือกเพลงที่มีจังหวะและอารมณ์ที่เข้ากับคอนเทนต์นั้น ๆ เช่น หาก Video ของคุณเป็นการโปรโมทสินค้า คุณอาจจะใช้เพลงที่มีจังหวะเร็วเพื่อกระตุ้นความรู้สึกของผู้ชมได้ ฯลฯ

‍

4. ทำให้ Video มีความกระชับและไม่ยืดเยื้อ

การทำ Video ที่มีความยาวเกินไปอาจไม่เหมาะกับคอนเทนต์ในยุคปัจจุบัน คุณควรทำให้ Video มีขนาดที่สั้นและกระชับ เหมาะกับการเผยแพร่ลงโซเชียลมีเดีย โดยเน้นเฉพาะเนื้อหาที่มีความสำคัญเท่านั้น และพยายามตัดคำพูดหรือภาพที่ไม่จำเป็นออกเพื่อให้ Video ดูไม่ยืดเยื้อจนเกินไป

‍

5. ออกแบบให้ตรงกับแพลตฟอร์ม

เมื่อคุณต้องการจะเปลี่ยนคอนเทนต์เดิมให้เป็น Video จะต้องมีการกำหนดขนาดและรูปแบบของ Video ให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่คุณต้องการจะเผยแพร่ เพื่อให้สามารถแสดงผลได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุก ๆ แพลตฟอร์ม

‍

6. ใส่คำบรรยายหรือข้อความประกอบใน Video

หลาย ๆ คนอาจจะคิดไม่ถึงว่าการใส่คำบรรยายหรือข้อความประกอบใน Video นั้นมีประโยชน์อย่างมาก เพราะในบางครั้งอาจมีผู้ชมที่ดู Video โดยไม่มีเสียง ทำให้ผู้ชมสามารถเข้าใจเนื้อหาข้อมูลที่ต้องการจะสื่อได้ผ่านการอ่านคำบรรยายหรือข้อความประกอบนั่นเอง

‍

‍

ทำไมถึงควรใช้ Motion Graphic ช่วยโปรโมทสินค้าและธุรกิจ

‍

1. เล่าเรื่องได้สนุกกว่าภาพนิ่ง 

การใช้ Motion Graphic ในการโปรโมทสินค้าและธุรกิจ จะทำให้การเล่าเรื่องราวมีความสนุกสนานและน่าสนใจมากกว่าภาพนิ่ง เพราะมีการใช้เสียงและ Effect มาช่วยเล่า ทำให้ผู้ชมเข้าใจเนื้อหาได้ครอบคลุมมากกว่าการใช้ภาพนิ่ง และสามารถสื่อสารออกมาได้ครบถ้วนกว่า

‍

2. เป็นสื่อที่ใช้โปรโมททางออนไลน์ได้ง่าย

ในยุคที่ผู้คนสนใจสื่อในช่องทางออนไลน์เป็นหลัก การใช้ Motion Graphic โปรโมทสินค้าและธุรกิจในรูปแบบของ Video ช่วยให้เข้าถึงผู้ชมในยุคนี้ได้ง่ายและกว้างขวางมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถเผยแพร่ได้อย่างรวดเร็ว เพราะผู้คนมีการส่งต่อข้อมูลกันได้ง่าย ๆ ผ่านการแชร์

‍

3. เสริมภาพลักษณ์ของธุรกิจได้อย่างอิสระ 

Motion Graphic สามารถออกแบบและนำเสนอข้อมูลได้อย่างอิสระ เหมาะสำหรับการนำมาใช้โปรโมทสินค้าและธุรกิจเพื่อเสริมภาพลักษณ์ให้กับตัวสินค้าหรือบริการ ผ่านการใช้สีสัน กราฟิก หรือลักษณะการเคลื่อนไหวของภาพได้ตามความต้องการ นอกจากนี้การใช้ Motion Graphic ที่เป็นสื่อสมัยใหม่ยังทำให้องค์กรของคุณดูมีความทันสมัยได้อีกด้วย

‍

4. ดึงดูดผู้ชมได้มากกว่า

ถึงแม้ว่าภาพ Infographic ทำให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจข้อมูลเนื้อหาได้ง่ายมากขึ้น แต่การใช้ Motion Graphic ที่เป็นภาพเคลื่อนไหวในการโปรโมทสินค้าและธุรกิจ สามารถดึงดูดผู้ชมได้มากกว่า และยังสามารถสร้างความรู้สึกมีส่วนร่วมให้กับผู้ชมได้มากกว่าอีกด้วย

‍

5. สื่อสารได้ครบถ้วนในเวลาสั้น ๆ

Motion Graphic สามารถสื่อสารข้อมูลได้อย่างครบถ้วนภายในระยะเวลาสั้น ๆ และยังทำให้ผู้ชมเข้าใจเนื้อหาข้อมูลได้มากกว่าการใช้ภาพนิ่งหรือ Infographic อีกด้วย จึงเหมาะสำหรับการนำมาโปรโมทสินค้าและธุรกิจ เพื่อให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ง่ายภายในเวลาไม่กี่นาที

‍

การทำ Motion Graphic ให้ได้แบบมืออาชีพ มีขั้นตอนเริ่มต้นที่สำคัญในการทำคือการวิเคราะห์โจทย์ธุรกิจอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คอนเทนต์ที่ออกมาตอบโจทย์กับธุรกิจของคุณและสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณกำลังมองหาวิธีการโปรโมทสินค้าและธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ Motion Graphic ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกทางหนึ่งค่ะ

‍