Back

ตัวอย่างออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้ได้จริง ทำตามได้เลย

Fast Fact

Fast Fact

Fast Fact

สิ่งที่น่าสนใจ

ตัวอย่างออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้ได้จริง ทำตามได้เลย

เว็บไซต์สำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ดี ควรมีการออกแบบที่แปลกใหม่และมีเนื้อหาที่น่าสนใจ เพื่อทำให้ผู้เข้าชมครั้งแรกเกิดความประทับใจและอยากซื้อสินค้าหรือบริการทันที

แต่เจ้าของธุรกิจหลายรายอาจยังไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะจ้างบริษัททำเว็บไซต์ หรือจ้างพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านเว็บไซต์เพื่อออกแบบและพัฒนา

ในบทความนี้ BEP Digital Agency จึงมีเทคนิคการออกแบบเว็บไซต์ง่าย ๆ ที่อยากมาแนะนำทุกคน รับรองว่าคุณจะหายปวดหัว และมีทริคมากขึ้นในการสร้างเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ธุรกิจอย่างแน่นอน!

เพราะการสร้างเว็บไซต์ที่ดี จะช่วยให้ผู้เข้าชมใช้เวลาอยู่บนเว็บไซต์นานขึ้น และเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วันนี้เราจะพาคุณไปชมตัวอย่างการออกแบบเว็บไซต์ พร้อมเทคนิคที่ใช้ในแต่ละตัวอย่าง ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที ไปดูกันเลยครับ

1. การเลือก Font ให้ถูกต้องและอ่านง่าย

ในตลาดมี Font ให้เลือกใช้งานมากมาย ทั้งสวยงาม ทั้งโดดเด่น สะดุดตา แต่มันอ่านออกสำหรับทุกคนหรือเปล่า?

การเลือก Font ที่ดี จะต้องเลือกรูปแบบที่เข้ากับสินค้าหรือธุรกิจที่คุณกำลังทำอยู่ หรือเข้ากับ Brand ของคุณ

แล้วจะหาจากไหนดี..

ลองเลือก Font จาก Canva หรือ Google font ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ

ตัวอย่าง

เว็บไซต์ของ Mastercard ใช้ฟอนต์เดียวกับโลโก้และทุกส่วนของธุรกิจ ส่งผลให้แบรนด์มีความแข็งแรง และลูกค้าจดจำสินค้าได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสบการณ์ใช้งาน (UX) ของผู้ใช้ขณะที่ใช้งานบนเว็บไซต์อีกด้วย

เว็บซต์ font

2. พยายามใช้สีสำหรับแบรนด์ที่จำง่าย

สีมีผลต่อการตัดสินซื้อสินค้า จากการศึกษาของมหาลัย Loyola ในรัฐ Maryland พบว่า คนสามารถจดจำแบรนด์ได้จากสีมากถึง 80% 

ดังนั้นหากเราต้องการใช้สีในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าให้ดีที่สุด  ควรเลือกสีหลักของแบรนด์ และใช้สีนี้กับทุกช่องทางการตลาด รวมไปถึงบนหน้าเว็บไซต์ แบนเนอร์ packaging และช่องทางอื่น ๆ ที่เรามี

ตัวอย่าง 

3. การใช้รูปคุณภาพสูง ภาพชัด

กลุ่มเป้าหมายที่กดเข้าเว็บไซต์มาจะไม่สามารถมองเห็น สัมผัส หรือทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จริงในโลกออนไลน์ได้ 

เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า คุณควรอัปโหลดรูปภาพผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง หรือรูปภาพที่เหมาะสม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของคุณโดดเด่นและทำให้ผู้คนหยุดมองได้

ตัวอย่าง 

รูปภาพคุณภาพสูงสำหรับเว็บ

หน้าแรกของ Tesla มีรูปภาพที่น่าสนใจของรถยนต์ หลังคาโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์เสริม สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ชมสามารถจินตนาการว่าตัวเองกำลังใช้ผลิตภัณฑ์จริง แม้ว่าพวกเขาจะเห็นผลิตภัณฑ์นั้นเพียงแค่หลังหน้าจอเท่านั้นก็ตาม

4. ต้องใช้งานบนมือถือได้ดี

ในปี 2025 มีโทรศัพท์มือถือมากกว่า 7.1 พันล้านเครื่องทั่วโลก และในจำนวน 50% ของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนก็มีแนวโน้มที่จะใช้เว็บไซต์บนมือถือ เพื่อเลือกดูหรือซื้อของแทนการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน 

ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการออกแบบเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานบนมือถือมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากเว็บไซต์โหลดช้า แสดงผลไม่ดี หรืออ่านยาก ก็อาจทำให้คุณเสียลูกค้าไปจำนวนมาก จากการเข้าเว็บไซต์มาและกด bounce ออกไป 

ดังนั้นคุณควรมีปุ่มขนาดใหญ่ที่กดง่าย เทมเพลตที่ปรับเปลี่ยนตามขนาดหน้าจอ และเนื้อหาที่สามารถเลื่อนดูได้ซึ่งออกแบบมาเพื่อผู้บริโภค

ตัวอย่าง

5. เว็บไซต์ควรมี Call to action

เว็บไซต์ที่สวยงามจะทำให้ผู้คนหยุดมองและชอบในแบรนด์ แต่อย่าลืมใส่ปุ่มให้ดำเนินการอย่าง Call to action เข้าไปด้วย เพราะปุ่ม CTA มีผลอย่างมากที่จะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายบนเว็บไซต์

ปุ่ม CTA นี้จะกระตุ้นให้ผู้ใช้งานทำตามขั้นตอนต่อไปเพื่อประสบการณ์การซื้อของที่สมบูรณ์ เช่นปุ่ม “เพิ่มเข้าตระกร้า” หากคุณต้องการขายสินค้า 

ตัวอย่าง

https://youtu.be/CZHpupzjBbo

Stripe เป็นหนึ่งในเว็บที่มี call to action ที่ชัดเจน โดยในแต่ละบริการจะมีประโยคที่แตกต่างกัน มีการแบ่งเนื้อหาที่ชัดเจน และไม่อ่านยากจนเกินไป เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ตรงตามเนื้อหาที่ผู้ใช้งานกำลังดูอยู่

6.พื้นที่สีขาวหรือช่องว่างนั้นดีกว่าที่คิด

เมื่อคุณจัดวางองค์ประกอบที่จำเป็นทั้งหมดของหน้า Landing Page แล้ว ให้คำนึงถึงพื้นที่ว่างด้วย

พื้นที่ว่าง (White Space) คือ การจัดวางพื้นที่ว่างรอบ ๆ องค์ประกอบต่าง ๆ บนเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ชมได้พักสายตาในระหว่างที่กำลังดูข้อมูล 

หากทำอย่างถูกต้อง คุณจะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมไปยังองค์ประกอบที่สำคัญได้ นอกจากนี้ คุณยังจะสามารถหลีกเลี่ยงความแออัดและความรกบนหน้า Landing Page ของคุณได้

ตัวอย่างเช่น 

ตัวอย่างเว็บไซต์ ขายของ

รูปภาพผลิตภัณฑ์ของ Apple จะมีพื้นที่ว่างล้อมรอบ ทำให้ผู้ชมสนใจ iPhone โดยธรรมชาติ

7. ออกแบบเว็บไซต์ให้เข้าถึงข้อมูลง่าย

ขณะที่คุณกำลังดูเว็บไซต์ ลองประเมินดูว่าคุณสามารถหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างง่ายหรือไม่ ?

หากไม่ ผู้ใช้งานอาจกดออกจากเว็บไซต์ไปในที่สุด เพราะใช้งานได้ไม่ตรงตามความต้องการ หรือหาข้อมูลไม่เจอ ดังนั้นเคล็ดลับการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีคือการใช้รูปแบบการนำทางที่เรียบง่ายบนส่วนหัวของเว็บไซต์

อย่างเว็บจองที่พักอย่าง Booking.com จะมีการวางการใช้งานที่ชัดเจน โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่

  • ส่วนซ้าย เป็นช่องสำหรับการเลือกและ Filter ได้ตามความต้องการ
  • ส่วนขวา จะเป็นรายละเอียดของที่พักพร้อมรูปภาพ ราคา รีวิว และปุ่มสำหรับการเข้าไปดูรายละเอียดห้องที่ยังว่าง


ส่วนในมือถือจะมีการวางข้อมูลส่วนซ้ายซ่อนไว้กับปุ่ม Sort, Filter, Map และวางไว้ด้านบน เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ทันที

8. อย่าขอข้อมูลเยอะไปในตอนแรก

ตามกฎ Hick’s law ที่เคยกล่าวไว้ว่า เมื่อคนเรามีตัวเลือกมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้นเท่านั้น 

ในการออกแบบเว็บไซต์ นั่นหมายถึงการที่หากคุณมีตัวเลือกมากเกินไป ผู้เข้าชมอาจตัดสินใจได้ยากว่าจะสมัครรับข้อมูลทางอีเมลหรือจะซื้อสินค้าดี การมีหน้าเว็บที่เรียบง่ายจะช่วยให้ผู้เข้าชมตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างเช่น 

ตัวอย่างเว็บไซต์ธุรกิจ

หน้าแรกของ Shopify มีเพียงแค่ปุ่มเดียวเท่านั้นคือ Start for free ซึ่งการมีปุ่มนี้จะช่วยกระตุ้นให้ดำเนินการที่ชัดเจนได้ ทำให้ผู้ใช้งานยอมรับข้อเสนอและเลือกที่จะสมัครได้อย่างง่าย

9. การใช้ Heading ที่น่าสนใจ

หัวข้อหรือตัวหนาบางประโยค ควรตั้งให้สั้น กระชับ เข้าใจง่าย เพราะจะช่วยโน้มน้าวให้ผู้ใช้งานทำสิ่งที่คุณต้องการ รวมถึงยังส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถกวาดสายตาดูหน้า Landing Page ของคุณและค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างง่ายดายเช่นกัน

ตัวอย่าง

หน้าเว็บของโปรแกรม affinity มีการจัดวางที่เรียบง่าย แยกหัวข้อและสัดส่วนข้อมูลชัดเจน เน้นรูปภาพเป็นหลักซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายนักออกแบบ พร้อมด้วยราคาปิดท้าย

ตัวอย่างเว็บไซต์บริษัท

10 การออกเว็บให้มีจุดดึงสายตา

Visual hierarchy หมายถึง การจัดระเบียบองค์ประกอบต่าง ๆ บนหน้าเว็บไซต์ เช่น การจัดวางรูปภาพและข้อความ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้ใช้รู้ว่าควรให้ความสนใจกับส่วนไหน แต่ยังกำหนดลำดับการนำเสนอข้อมูลด้วย

ในตัวอย่างนี้จาก Tesla คุณจะเห็นว่าชื่อรุ่น “Model Y” เป็นองค์ประกอบที่อยู่ข้างกับรูปรถด้านขวา ตามมาด้วยประโยค Hook ที่ทำให้น่าสนใจ พร้อมปุ่ม CTA “นัดหมายทดลองขับ” 

11. อย่าลืมใส่ Testimonial

Testimonials หรือรีวิวจากลูกค้า เป็นการแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้ส่งมอบคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือจริง ซึ่งสอดคล้องกับผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ชอบอ่านรีวิวออนไลน์ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า 

ธุรกิจที่ได้รับรีวิวดีจะมีจำนวนผู้เข้าชมเพิ่มขึ้น 15% ถึง 20% ดังนั้นผลลัพธ์เหล่านี้จะแสดงให้เห็นว่าการใส่คำรับรองจากลูกค้าบนเว็บไซต์จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อได้

ตัวอย่าง

จากตัวอย่างเดิมของ Booking.com ที่มีรีวิวของแต่ละที่พักพร้อมเรตติ้งที่ผู้เข้าพักได้ให้ข้อมูลไว้กับทางโรงแรม ข้อมูลส่วนนี้จะช่วยให้ผู้เข้าชมตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

สรุป

คุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญก็สามารถสร้างเว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็กที่โดดเด่นและสามารถเพิ่มยอดขายได้ เพียงแค่รู้เคล็ดลับและกลยุทธ์ที่เหมาะสม คุณก็จะสามารถสร้างหน้า Landing Page ที่น่าสนใจ พร้อมทั้งสื่อถึงบุคลิกและข้อความของแบรนด์คุณได้ 

นอกจากนี้ หากคุณยังเป็นมือใหม่ในการออกแบบเว็บไซต์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ เช่น wordpress หรือ webflow ก็เป็นความคิดที่ดี เพราะจะทำให้กระบวนการต่าง ๆ ง่ายขึ้นมาก 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถอ่านบทความของเราเกี่ยวกับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจได้เลย 

Blogs Recommended

Back to top