Back

Google Lighthouse เครื่องมือตรวจสอบเว็บไซต์ SEO ฟรี!

“Google” ถือว่าเป็นสนามรบออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่ใคร ๆ ก็อยากแย่งชิงเพื่อดันเว็บไซต์ของตัวเองให้ติดหน้าแรกบน Search Engine เพราะไม่ว่าเราจะอยากรู้อะไร เราก็จะเลือกค้นหาทุกสิ่งทุกอย่างบน Google ดังนั้นการทำ SEO จึงเป็นการสร้างโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณได้รับคะแนนความน่าเชื่อถือจาก Google เพิ่มโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาเจอธุรกิจของเรา และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้มากกว่าช่องทางไหน ๆ 

ซึ่งการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพนั้นก็ไม่ใช่แค่เรื่องคอนเทนต์ที่เราต้องโฟกัส แต่คุณภาพของเว็บไซต์ก็สำคัญไม่แพ้กัน ทาง Google จึงได้พัฒนาเครื่องมือที่มีชื่อว่า Google Lighthouse ที่สามารถตรวจสอบและวัดคุณภาพของเว็บไซต์โดยเฉพาะ เพื่อให้นักทำ SEO นำข้อมูลที่ได้มาไปประเมินและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพทั้งในมุมมองของผู้ใช้งานและSearch Engine อย่าง Google

งั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเครื่องมือ Google Lighthouse ว่าคืออะไร ใช้ปัจจัยอะไรบ้างเพื่อตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์ ถ้าพร้อมแล้ว…ไปหาคำตอบกัน!

Google Lighthouse คืออะไร ?

Google Lighthouse คือ เครื่องมือฟรีจาก Google มีหน้าที่ตรวจสอบและวัดคุณภาพของเว็บไซต์โดยเฉพาะ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงคุณภาพเว็บเพจในเว็บไซต์ ซึ่งจะวิเคราะห์ตั้งแต่ Performance, Accessibility, Best Practices, SEO และ Progressive Web App (PWA) โดยจะแสดงผลออกมาเป็นคะแนน 0-100 พร้อมแสดงข้อบกพร่องและเสนอวิธีแก้ไขมาให้เรียบร้อย

เกณฑ์การให้คะแนนของ Google Lighthouse 

- คะแนน 0 – 49  : สีแดง หมายถึง เว็บไซต์ควรได้รับการปรับปรุงอย่างเร็วที่สุด

- คะแนน 50 – 89 : สีเหลือง หมายถึง แนะนำให้ปรับปรุงเว็บไซต์

- คะแนน 90 – 100 : สีเขียว หมายถึง เว็บไซต์มีคุณภาพ ไม่จำเป็นต้องปรับปรุง

ปัจจัยที่เครื่องมือ Google Lighthouse ใช้ตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์ มีอะไรบ้าง ?

Performance

Performance เป็นหนึ่งในปัจจัยสำหรับการจัดอันดับของ Google ที่วัดจากความเร็วของการแสดงผลบนหน้าจอ ถ้าเว็บไซต์ถูกออกแบบมาอย่างมีคุณภาพก็จะใช้เวลาดาวน์โหลดน้อย แสดงผลบนจอได้รวดเร็วทันใจ ส่งผลให้ผู้ใช้งานเกิดประสบการณ์ที่ดี หรือเรียกว่า User Experience แต่ถ้าเว็บไซต์ออกแบบมาไม่มีคุณภาพ ใช้เวลาดาวน์โหลดนานเกินไป จอแสดงผลช้ามาก ก็อาจทำให้ผู้ใช้งานเกิดอาการหงุดหงิดและกดปิดหน้าจอไป ทำให้อัตรา Bounce Rate มีค่าสูงขึ้น แสดงถึงว่าเรามีการทำ SEO ไม่ดีเท่าที่ควร

Google Lighthouse  มีเกณฑ์ให้คะแนน Performance จาก 5 ตัวชี้วัด ดังนี้

  1. First Contentful Paint (FCP) คือ ค่าที่ใช้วัดเวลาในการดาวน์โหลดเนื้อหาแรกที่ปรากฏให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์เห็น โดยเนื้อหาดังกล่าวอาจเป็นได้ทั้งภาพหรือตัวอักษร โดยระยะเวลาที่เหมาะสมจะต้องไม่เกิน 1,000 ms หรือประมาณ 1 วินาที

  2. Largest Contentful Paint (LCP) คือ ค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการโหลด โดยจะต้องมีความเร็วในการดาวน์โหลดน้อยกว่า 2.5 วินาที

  3. Total Blocking Time (TBT)  คือ ค่าที่ใช้วัดระยะเวลาที่หน้าเว็บไซต์ตอบสนองต่อการคลิก โดยระยะเวลาที่เหมาะสมจะต้องไม่เกิน 300 ms หรือ 0.3 วินาที

  4. Cumulative Layout Shift (CLS) คือ ค่าที่ใช้วัดความเสถียรของการเคลื่อนที่ของแต่ละองค์ประกอบต่าง ๆ ในเว็บไซต์ ควรจะต้องน้อยกว่า 0.1 วินาที

  5. First Input Delay (FID) คือ ค่าที่ใช้วัดความเร็วในการตอบสนองหรือโต้ตอบ โดยระยะเวลาที่เหมาะสมจะต้องไม่เกิน 100 มิลลิวินาที หรือ 0.1 วินาที

Accessibility

Accessibility เป็นปัจจัยสำหรับการประเมินคุณภาพการเข้าถึงหน้าต่าง ๆ ของเว็บไซต์ ซึ่งจะวัดจากองค์ประกอบและฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่ได้ใส่ลงไปในเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Call-to-Action, Backlink, Alt Text และอื่น ๆ  โดยองค์ประกอบเหล่านี้จะมีการให้คะแนนประเมินคุณภาพตั้งแต่ 0-100 คะแนน เพื่อนำคะแนนที่ได้มาปรับปรุงเว็บไซต์และสร้างประการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งานได้อย่างสูงสุดต่อไป

Best Practices

Best Practices เป็นปัจจัยที่ใช้ประเมินว่าเว็บไซต์ที่เราตรวจสอบนั้นได้รับมาตรฐานความปลอดภัยและน่าเชื่อถือหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้เครื่องมือ Google Lighthouse จะมีเกณฑ์การให้คะแนนสูงมาก ๆ โดยจะสามารถตรวจสอบได้ตั้งแต่ความปลอดภัยของทรัพยากรที่นำมาจากเซิร์ฟเวอร์, ความปลอดภัยของคลังเก็บ JavaScript, สัดส่วนและความละเอียดที่เหมาะสมของรูปภาพภายในเว็บไซต์, ข้อผิดพลาดของหน้าเพจบนเบราวเซอร์ทั้งหมด และแหล่งที่มาของหน้าเพจ

SEO

เครื่องมือ Google Lighthouse สามารถตรวจสอบและประเมินประสิทธิภาพของ SEO ได้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น On-Page SEO, Title และ Meta Description, Heading Tag, Alt Text, Internal Link, ความน่าเชื่อถือของโครงสร้างเนื้อหาในหน้าเพจ รวมไปถึงการรองรับการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ แต่ในส่วนของ SEO เราแนะนำว่าให้ใช้เครื่องมืออื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากที่สุดครับ

Progressive Web App (PWA)

PWA คือการพัฒนาเว็บไซต์ให้สวยงาม ใช้งานง่าย และมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน โดยเครื่องมือ Google Lighthouse ก็จะสามารถประเมิน PWA ของเว็บไซต์ได้ในทุก ๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสวยงาม ความเร็ว รูปแบบการใช้งาน และองค์ประกอบต่าง ๆ ที่มีผลต่อความเสถียร จากนั้นนำผลลัพธ์ที่ได้มาปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้เว็บไซต์สามารถแสดงผลได้อย่างมีประสิทธิภาพดีที่สุด

 

จึงสรุปได้ว่าเครื่องมือ Google Lighthouse นั้นสามารถตรวจสอบและประเมินได้ว่าเว็บไซต์ของเรามีอะไรบ้างที่ผ่านเกณฑ์และไม่ผ่านเกณฑ์ พร้อมทั้งให้คะแนนในแต่ละหัวข้ออย่างชัดเจน รวมถึงยังแสดงข้อบกพร่องและเสนอวิธีแก้ไขมาให้เรียบร้อย ซึ่งเราก็สามารถนำวิธีแก้ไขเหล่านั้นไปปรับปรุงเว็บไซต์ได้ทันที เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้คะแนนจาก Google เพิ่มขึ้นแล้ว

 

แต่ถ้าคุณอยากให้เว็บไซต์มีโอกาสติดหน้าแรกบน Google ได้ชัวร์ ๆ โดยไม่ต้องมานั่งดูข้อบกพร่องและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ให้เราเป็นตัวช่วยของคุณ!

 

BEP Digital Agency ยินดีให้คำปรึกษาและรับทำเว็บไซต์ SEO โดยเฉพาะ เรามีผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่จะคอยดูแลและปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังมีบริการในด้านของการออกแบบเว็บไซต์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น UX/UI, Media design และ Branding คลิกเลย

{{CTA="/blog"}}

Blogs Recommended

Back to top