ปฏิเสธไม่ได้ว่าเว็บไซต์เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเชื่อมต่อธุรกิจของคุณให้เข้ากับโลกออนไลน์ได้อย่างกว้างขวาง สามารถขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ทำให้ธุรกิจดูน่าเชื่อถือ แต่พอเรามีเว็บไซต์ธุรกิจเป็นของตัวเองแล้ว แน่นอนว่าเราต้องอยากดันเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้น ๆ บน Google !
โดยวิธีการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) ก็มาจาก 2 วิธีหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่
1. Paid Search (PCC) การจ่ายเงินซื้อพื้นที่โฆษณา
2. Organic Search (SEO) การค้นหาแบบทั่วไป
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเจ้าของเว็บไซต์ก็จะเลือกใช้วิธีการตามความต้องการของตัวเอง ถ้าอยากให้เว็บไซต์ขึ้นบนหน้าแรกโดยทันที ก็ต้องเลือกวิธีซื้อพื้นที่โฆษณา แต่ถ้าอยากให้เว็บไซต์ติดอันดับยาว ๆ แบบยั่งยืน ก็ต้องหันมาใช้วิธี Organic Search หรือเรียกง่าย ๆ ว่าการทำ SEO
แต่ความจริงแล้วการที่เราเลือกทำแค่วิธีเดียวก็ไม่ใช้สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป เพราะถ้าหากเราใช้ข้อมูลจากฝั่ง Paid Search เพียงอย่างเดียว เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราเลิกทำโฆษณาไปแล้ว ผู้ใช้งานก็จะหาเว็บไซต์ของเราไม่เจออีกต่อไป แต่ถ้าเราใช้ข้อมูลจากฝั่ง Organic Search เพียงอย่างเดียว ก็อาจทำให้เราเป็นรองเว็บไซต์ที่ซื้อพื้นที่โฆษณาอยู่เสมอ ดังนั้นการที่จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าแสดงผล SERP หรือหน้าผลลัพธ์การค้นหาของ Google อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จำเป็นต้องพึ่งพาทั้ง Paid Search และ Organic Search ไปพร้อม ๆ กัน
วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Holistic Search หรือการค้นหาแบบองค์รวม ซึ่งเป็นคีย์ลัดแห่งความสำเร็จของการทำ Search Engine ที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าทำให้เกิดผลลัพธ์อันยอดเยี่ยม เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างการค้นหาทั้งสองแบบของ Paid Search และ Organic Search ซึ่งจะมีกลยุทธ์อย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลย!
Holistic Search คืออะไร ?
Holistic Search คือ กลยุทธ์การค้นหาแบบองค์รวม โดยจะรวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากทั้งสองช่องทางการค้นหา Paid Search (PCC) และ Organic Search (SEO) เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดจนช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ บน Google ทำให้กลุ่มผู้ใช้งานสามารถค้นหาและเจอเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น
โดยการทำ SEO และ PCC นับว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ Search Engine Marketing หรือเรียกว่า SEM แต่การทำงานของทั้งคู่นั้นค่อนข้างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรงบประมาณ การวัดค่า KPIs และข้อมูลเชิงลึกในการทำการตลาด ซึ่งกลยุทธ์ Holistic Search จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่เข้ามาช่วยให้ทั้งสองส่วนนี้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
วิธีใช้กลยุทธ์ Holistic Search ให้เวิร์ค!
อย่างที่บอกไปว่า Holistic Search คือการดูข้อมูลทั้งสองฝั่ง ซึ่งขั้นตอนแรกของการที่เราจะดันเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้น ๆ แน่นอนว่าเราจะต้องหาคีย์เวิร์ดเพื่อนำมาเขียนบทความ หรือเรียกว่าการทำ Keyword Research ดังนั้นคุณจะต้องทราบให้ได้ว่ากลุ่มเป้าหมายใช้คำหรือวลีอะไรหาข้อมูล เพื่อที่จะสามารถวางแผนการตลอดออนไลน์ได้อย่างแม่นยำ
ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าเราซื้อเลือกวิธี Paid Search ซื้อพื้นที่โฆษณาให้แก่เว็บไซต์ของตัวเองอยู่เสมอ เราก็จะมองหาคีย์เวิร์ดและข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างเว็บไซต์ที่เป็น PPC ด้วยกันเองเท่านั้น เพื่อดูว่าการแข่งขันคีย์เวิร์ดว่าขณะนั้นเป็นอย่างไร และควรปรับปรุงคีย์เวิร์ดอย่างไรให้ดีกว่าเว็บไซต์คู่แข่ง ซึ่งเราจะไม่มองคีย์เวิร์ดของฝั่ง Organic Search เลยแม้แต่น้อย แต่เคยคิดมั้ยว่าถ้าวันหนึ่งโฆษณาของเราหมดไป คีย์เวิร์ดนั้นจะยังมีประสิทธิภาพดีเท่าเดิมอยู่หรือไม่ ผู้ใช้งานยังค้นหาเว็บไซต์เราเจออยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า ?
ในขณะเดียวกันถ้าเราเลือกทำ SEO หรือ Organic Search โดยการดูแต่คีย์เวิร์ดฝั่ง Organic เพียงอย่างเดียว ก็อาจส่งผลให้เราเป็นรองเว็บไซต์อื่น ๆ ที่ทำ PPC เพราะเว็บไซต์ที่ซื้อพื้นที่โฆษณาจะได้อยู่บนอันดับแรก ๆ ของหน้าการค้นหาอยู่เสมอ และถ้าหากว่ามีเว็บไซต์ที่ซื้อพื้นที่โฆษณาแล้วใช้คีย์เวิร์ดเดียวกับเราเป็นจำนวนมาก เราก็มีโอกาสตกไปอยู่ลำดับท้าย ๆ ได้เลย
ดังนั้นกลยุทธ์ Holistic Search จะนำมาใช้ในขณะที่เรากำลังทำ Keyword Research โดยเราจะต้องรู้คีย์เวิร์ดที่เป็นที่นิยมทั้งในส่วนของ PPC และ SEO จากนั้นให้เลือกคีย์ของฝั่ง SEO ที่มีต้นทุนถูก เพื่อที่หวังจะได้กำไรจากการทำ PCC เพราะเมื่อโฆษณาของเราหมดอายุแล้ว เว็บไซต์ของเราก็ยังมีโอกาสที่จะปรากฏอยู่บนหน้าแรกต่อไป ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงจากการแข่งขันของ PPC และ SEO ที่มีจำนวนการเกิดใหม่ขึ้นทุก ๆ วัน
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องใช้วิธีการค้นหาคีย์เวิร์ดอย่างผสมผสาน ที่ทำให้เกิดผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมอย่าง Holistic Search เพราะแม้ว่าวันหนึ่งเราจะเลิกทำโฆษณาไปแล้ว ผู้ใช้งานก็ยังค้นหาเว็บไซต์เราเจออย่างแน่นอน หรือหากเราเลือกทำ SEO เว็บไซต์ก็จะไม่เป็นรองเว็บไซต์ที่ซื้อพื้นที่โฆษณาอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมี 4 ประโยชน์ของการทำ Holistic Search ที่คุณควรรู้ ตามไปอ่านกันต่อได้เลย!
ทางทีม BEP Digital Agency ยินดีให้คำปรึกษาและรับทำ SEO รวมถึงรับทำ Digital Matketing แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น Content Marketing, Google Ads และ Social media Ads นอกจากนี้เรายังมีบริการในด้านของ Design อีกด้วย ทั้งรับออกแบบเว็บไซต์, UX/UI, Media design และ Branding สอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่
{{CTA="/blog"}}