เวลาเขียนคอนเทนต์เพื่อทำ SEO หลายคนมักโฟกัสแต่ Focus Keyword หรือคีย์เวิร์ดหลัก แล้วลืมสิ่งสำคัญอีกอย่างที่ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น นั่นคือ LSI Keywords ซึ่งเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยให้บทความตอบโจทย์ทั้งคนอ่านและอัลกอริทึมได้ในเวลาเดียวกัน

‍

หลายเว็บที่ติดอันดับยาว ๆ มักมีการใช้ LSI Keywords ที่เป็นธรรมชาติ กระจายอยู่ในเนื้อหาพอดี ๆ ไม่ยัด ไม่ปลอม และช่วยให้ Google รู้ว่าบทความนี้มีความเกี่ยวข้องจริงกับหัวข้อที่ต้องการทำอันดับ

‍

วันนี้เราจะมาดูกันให้ลึกขึ้นว่า LSI Keywords คืออะไร ทำไมมันถึงสำคัญ และจะใช้อย่างไรให้ได้ผลจริงบนหน้าอันดับของ Google 

‍

‍

‍

LSI Keywords คืออะไร

‍

LSI (Latent Semantic Indexing) Keywords คือ คำและวลีที่มีความหมายเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลัก หรือคำที่มักถูกใช้ในบริบทเดียวกัน เช่น ถ้าคีย์เวิร์ดหลักคือ “กล้องถ่ายรูป” LSI Keywords อาจเป็นคำว่า เลนส์, ความละเอียดภาพ, กล้อง DSLR, รูรับแสง และ ไฟล์ RAW

‍

คำเหล่านี้ไม่ได้เป็นคำเดียวกัน แต่เกี่ยวข้องกันในบริบท ทำให้ Google เข้าใจได้มากขึ้นว่าบทความนี้พูดเรื่องกล้องจริง ๆ

‍

‍

‍

ทำไม LSI Keywords ถึงสำคัญต่อ SEO

Google ไม่ได้ดูแค่คีย์เวิร์ดตรงคำเดียวแล้วจัดอันดับ แต่ใช้การวิเคราะห์บริบทเพื่อประเมินว่าเนื้อหานั้นครอบคลุมและเกี่ยวข้องกันมากแค่ไหน การใช้ LSI Keywords จึงช่วยเพิ่มโอกาสหลายด้าน ได้แก่

‍

1. ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาได้ชัดเจนขึ้น

เมื่อบทความมีคำที่เกี่ยวข้องหลากหลาย Google จะเห็นภาพว่าเนื้อหามีความครอบคลุม ไม่ใช่บทความที่เขียนผิว ๆ

‍

2. เพิ่มโอกาสติดอันดับในหลายคำค้นหา

แม้คุณจะโฟกัสคีย์เวิร์ดหลัก แต่ LSI Keywords ที่อยู่ในบทความอาจทำให้ติดในคีย์เวิร์ดย่อยอื่น ๆ โดยธรรมชาติ

‍

3. ทำให้บทความดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่สแปมคีย์เวิร์ด

เนื้อหาที่ใช้แค่คีย์เวิร์ดหลักซ้ำ ๆ จะดูแข็งและไม่น่าอ่าน การใช้ LSI ช่วยให้เขียนได้ลื่นและเป็นภาษาคนมากขึ้น

‍

4. ช่วยตอบ Search Intent ได้ลึกกว่าเดิม

เพราะคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องมักเป็นสิ่งที่คนอยากรู้ในประเด็นใกล้เคียงกัน ทำให้บทความตอบโจทย์ได้ครบในหน้าเดียว

‍

‍

ตัวอย่าง LSI Keywords แบบเข้าใจง่าย

คีย์เวิร์ดหลัก: ลดน้ำหนัก
LSI Keywords อาจเป็น

• แคลอรี่
• คุมอาหาร
• ออกกำลังกาย
• เผาผลาญ
• โภชนาการ

‍

คีย์เวิร์ดหลัก: SEO
LSI Keywords อาจเป็น

• คีย์เวิร์ด
• อัลกอริทึม
• Backlink
• On-page SEO
• Ranking

จะเห็นว่าเป็นคำเหล่านี้อยู่ในหมวดเดียวกัน ช่วยให้บทความมีบริบทครบมากขึ้น

‍

‍

วิธีหา LSI Keywords แบบง่ายและใช้ได้จริง

1. Google Related Searches

‍

‍

เลื่อนลงล่างสุดของหน้าผลการค้นหา จะเห็นคำใกล้เคียงที่คนค้นจริง ถือเป็น LSI ชั้นดี

‍

2. Google Autocomplete

‍

‍

พิมพ์คีย์เวิร์ดลงในช่องค้นหา แล้วดูว่ามีคำต่อท้ายอะไรขึ้นมา เช่น พิมพ์ “seo” อาจขึ้นว่า seo คืออะไร หรือ seo ทำยังไง

‍

3. ใช้เครื่องมือ SEO

เครื่องมือ SEP เหล่านี้จะดึงคำที่เกี่ยวข้องออกมาให้พร้อม Volume เช่น

• Ahrefs: Keyword Explorer
• Ubersuggest: Related Keywords
• Semrush: Keyword Magic Tool

‍

4. ดูจากคู่แข่งที่ติดอันดับ

บทความหน้าแรกมักมี LSI กระจายอยู่เต็มไปหมด ลองดูหัวข้อย่อย คำที่ใช้บ่อย ๆ หรือคำที่ Google ทำตัวหนา (Bold) เอาไว้

‍

‍

ควรใส่ LSI Keywords ในบทความตรงไหน?

ไม่จำเป็นต้องยัดหรือใส่แบบฝืน ให้แทรกในส่วนที่เป็นธรรมชาติ เช่น

• หัวข้อย่อย (H2 / H3)
• ย่อหน้าอธิบาย
• Bullet points
• Caption ของภาพ
• Meta Description

‍

‍

LSI Keywords ช่วยให้ติด SEO ดีขึ้นจริงไหม ?

ผลลัพธ์ไม่ได้เกิดเพราะ LSI อย่างเดียว แต่ช่วยเสริมให้บทความมีคุณภาพสูงขึ้นในสายตา Google
ผลลัพธ์ที่เห็นบ่อยคือ

• หน้าเดียวติดหลายคำค้น
• บทความมีโอกาสขึ้น Featured Snippet มากขึ้น
• เขียนคอนเทนต์ครอบคลุมก็จะมีโอกาสได้คะแนน E-E-A-T สูงขึ้น

LSI ไม่ใช่สูตรลับ แต่เป็นเทคนิคที่ช่วยให้การเขียนคอนเทนต์ครบมากขึ้น และเป็นมาตรฐานของการทำ SEO สมัยใหม่

‍

‍

เมื่อคุณลองนำเทคนิค LSI Keywords ไปใช้จริง ก็จะเห็นได้ชัดว่ามันช่วยให้ Google เข้าใจบทความได้ดีขึ้น ทำให้เนื้อหามีบริบทที่ครบกว่าเดิม และตอบโจทย์คนอ่านได้มากขึ้นในหน้าเดียว

‍

‍BEP Digital Agency พร้อมช่วยวางแผนคีย์เวิร์ด วิเคราะห์ LSI Keywords ให้ตรงกับธุรกิจ และเขียนคอนเทนต์คุณภาพที่มีโอกาสติดอันดับได้จริงบนหน้าค้นหาของ Google ติดต่อเราได้เลย!