รู้หรือไม่? Facebook Group เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่คุณสามารถสร้าง Community ให้กับธุรกิจได้โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท แถมยังสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เพราะทุกคนในกลุ่มจะสนใจในเรื่องเดียวกัน คุยกันรู้เรื่องแบบคล่องปรื๋อ คุณแทบไม่ต้องเสียเงินทำการตลาดอะไรมากมาย 

แต่ไม่ใช่ว่าแค่สร้างกรุ๊ปแล้วก็ปล่อยให้สมาชิกในกลุ่มคุยกันเอง แบบนั้นคุณอาจเข้าใจจุดประสงค์ของการสร้างกลุ่มผิดไป เพราะถ้าคุณไม่ได้มี interactive อะไรกับคนในกลุ่ม ก็อาจยากที่จะประสบความสำเร็จในช่องทางการตลาดนี้ วันนี้เราจึงอยากมาแชร์ 4 เทคนิคในการสร้าง Facebook Group ให้แข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะมีเทคนิคอะไรบ้าง ไปดูกันเลย! 

‍

‍

Facebook Group คืออะไร? 

กลุ่มบน Facebook เปรียบเสมือนเป็นสถานที่สำหรับการสานสัมพันธ์และมีส่วนร่วมของผู้คนที่มีความสนใจร่วมกัน เช่น ธุรกิจ ทีมกีฬา การ์ตูน ของเล่น ของใช้ ฯลฯ ซึ่งคุณสามารถสร้างหรือเข้าร่วมกลุ่มได้ทั่วทุกมุมโลก 

แต่ในมุมมองของผู้ประกอบการ Facebook Group นับว่าเป็นอีกพื้นที่ที่สามารถทำการตลาดให้กับแบรนด์ได้ ทั้งยังเข้าใจถึงปัญหา Pain Point และความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้ง เมื่อผู้บริโภคออกมาแชร์ปัญหาที่ได้เจอกับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ รวมถึงยังสามารถรักษาความสัมพันธ์กับ Audience เพื่อให้เกิด Brand Loyalty ในระยะยาวได้อีกด้วย 

‍

4 วิธีจัดการ Facebook Group ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง! 

‍

1. การจัดการสมาชิกในกลุ่ม 

การคัดคนเข้ากลุ่มเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยให้สมาชิกในกลุ่มเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราจริง ๆ ดังนั้นคุณควรตั้งกฏและกติกาในการรับคนเข้ากลุ่มเสมอ โดยคำถามก่อนเข้ากลุ่มอาจเป็นคำถามเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ เพื่อทดสอบว่ากลุ่มเป้าหมายมีความชอบเดียวกัน คุยกับคนในกลุ่มรู้เรื่อง รวมถึงยังช่วยคัดสแปมหรือมิจฉาชีพออกจากลุ่มได้อีกด้วย 

‍

2. มองหา Opinion Leader  

ในทุก ๆ คอมมูนิตี้เราจะต้องมี Opinion Leader คนที่เป็นผู้รู้ในสินค้าหรือบริการนั้น ๆ อย่างลึกซึ้ง ผู้ที่สามารถให้คำแนะนำและคำตอบได้อย่างคล่องแคล่ว รวมถึงสร้างหัวข้อการพูดคุยที่จะช่วยพัฒนาคอมมูนิตี้ให้ดีขึ้น  

ดังนั้นกลุ่มของคุณควรมี Opinion Leader ที่สามารถสร้างน้ำหนักในการพูดถึงสินค้าเพื่อนำไปสู่กระบวนการตัดสินใจซื้อได้ เพราะถ้าหากกลุ่มของคุณไม่มี Opinion Leader ก็อาจทำให้กลุ่มขาดความน่าเชื่อถือได้นั่นเอง 

‍

3. เก็บ Feedback มาพัฒนาสินค้า 

คอมมูนิตี้เป็นแหล่งที่คุณสามารถเก็บ Feedback จากความรู้สึกของผู้บริโภคได้อย่างจริงใจ รับรู้ข้อดีและข้อเสียของสินค้าหรือบริการอย่างถ่องแท้ เพราะคนในกลุ่มจะเป็นผู้ที่สนใจและใช้สินค้าคุณจริง ๆ ดังนั้นคุณสามารถนำ Feedback จากความคิดเห็นในกลุ่มมาพัฒนาสินค้าหรือบริการต่อในอนาคตได้เลย 

‍

4. สร้าง Content จากความคิดเห็น 

ประโยชน์ของการเก็บ Feedback ไม่ได้มีแค่นำมาพัฒนาสินค้าหรือบริการต่อ แต่ยังสามารถนำมาสร้างคอนเทนต์ต่อได้อีกด้วย! เพราะเรารู้แล้วว่าลูกค้าชอบอะไรในตัวแบรนด์ หรือสงสัยอะไรในตัวแบรนด์ ซึ่งเราสามารถหยิบข้อมูลจาก Insight มาสร้างคอนเทนต์ให้กับแบรนด์ได้เลย 

นอกจากนี้ Facebook Group ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่ประสบปัญหา Facebook Page มี Traffic ลดลงหรือถูกปิดกั้นจาก Facebook โดยเราสามารถนำคอนเทนต์ในเพจไปแชร์ลงกรุ๊ปได้ แต่ต้องเป็นเนื้อหาที่สมาชิกในกลุ่มสนใจร่วมกัน และแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ได้ ซึ่งจะทำให้เกิด Engagement ทั้งในเพจและในกลุ่ม เรียกว่า Win – Win ทั้ง 2 ฝ่ายอย่างแน่นอน 

‍

Facebook Group จึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจ แต่หลายคนมักมองข้าม เพราะยังมองไม่เห็นประโยชน์ที่แท้จริงของการสร้างกลุ่ม หวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณเข้าใจว่าการสร้าง Facebook Group นั้นเป็นมากกว่าการซื้อ-ขาย แต่เป็น Community ที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจและผู้บริโภคสามารถสื่อสารกันได้อย่างเข้าใจ และนำข้อมูลที่ได้จากผู้บริโภคในกลุ่มไปพัฒนาต่อยอดให้กับธุรกิจต่อได้อย่างยั่งยืน