ถึงแม้ว่า เครื่องมือทางการตลาดทั้งหมดจะมุ่งเน้นในการช่วยให้การทำการตลาดนั้นง่ายขึ้นด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป  แต่ไม่มีเครื่องมือไหนที่สามารถใช้ได้กับธุรกิจทุกขนาด ดังนั้นสิ่งสำคัญคือคุณต้องหาเครื่องมือทางการตลาดที่เหมาะสมสำหรับช่องทางและกลยุทธ์ทางการตลาดที่คุณใช้

‍

‍

เครื่องมือทางการตลาด (Marketing tool) คืออะไร?

‍

ในบางครั้งการทำการตลาดอาจจะดูเป็นเรื่องยาก ซ้ำซาก ทำได้ช้า หรือไม่สะดวกในการค้นหาและวิเคราะห์ไปบ้าง นักวิเคราะห์ข้อมูลและนักพัฒนาจึงได้มีการผลิตเครื่องมือทางการตลาด หรือที่เรียกว่า Marketing tool ออกมาเพื่อช่วยเก็บข้อมูลในโลกดิจิทัล ทำให้การทำการตลาดนั้นสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

‍

เครื่องมือทางการตลาดนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้งานจุกจิกที่ดูน่ารำคาญนั้นง่ายขึน อีกทั้งยังช่วยลดเวลาในการทำงานได้อีกด้วย โดยคุณสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้ทำงานผ่านระบบอัตโนมัติให้คุณได้เลย

‍

‍

‍

ประโยชน์ของเครื่องมือทางการตลาด

‍

ประโยชน์ของเครื่องมือทางการตลาดนั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้ แต่อย่างไรก็ตามการใช้เครื่องมือทางการตลาดจะได้รับประโยชน์ดังต่อไปนี้

‍

• ประหยัดเวลาการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ
• ใช้เวลาในส่วนงานที่จุกจิกและน่าเบื่อน้อยลง ทำให้มีเวลาในการวิเคราะห์มากยิ่งขึ้น
• สะดวกต่อการทำงาน เช่น สามารถตั้งเวลาการโพสต์ได้เลย ไม่จำเป็นต้องเข้าระบบเพื่อโพสต์ในเวลานั้น ๆ
• ได้ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์ขั้นสูง ผลลัพธ์ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
• ข้อมูลน่าเชื่อถือมากขึ้น สามารถตัดเรื่อง Human Error ไปได้เลย หากคุณวางแผนการใช้เครื่องมืออย่างดี

‍

‍

ประเภทของเครื่องมือทางการตลาด 

‍

ถึงแม้ว่า เครื่องมือทางการตลาดแต่ละอย่างอาจครอบคลุมการตลาดด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้าน อาจมีความทับซ้อนกันอยู่บ้าง แต่สามารถใช้ร่วมกันกับเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อช่วยทำให้การทำการตลาดของคุณนั้นได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยหลัก ๆ แล้ว สามารถแบ่งเครื่องมือทางการตลาดออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่

‍

‍

เครื่องมือทางการตลาดสำหรับ Social media (Social media marketing tools)

Social media ในปัจจุบัน ถือว่าเป็นช่องทางในการสื่อสารที่ได้ประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, หรือ TikTok เป็นต้น หากมีเครื่องมือที่จะมาช่วยเก็บข้อมูล และนำมาวิเคราะห์ ก็จะช่วยทำให้การทำงานนั้นง่ายขึ้นมาก นอกจากนั้นเครื่องมือทางการตลาดเหล่านี้ยังสามารถบริหารจัดการ และตั้งเวลาโพสต์ตาม Timeline บน Social Media ได้อีกด้วย

‍

‍

‍

เครื่องมือทางการตลาดสำหรับ Email (Email marketing tools)

Email marketing หรือการทำการตลาดผ่าน Email เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในรูปแบบของ Email เพื่อที่จะประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการใหม่ ๆ รวมถึงแจ้งข้อมูลข่าวสาร โปรโมชั่นต่าง ๆ ให้กับลูกค้า 

‍

โดยมีเครื่องมือมากมายที่สามารถช่วยทำให้การทำการตลาดผ่าน Email นั้นง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีทั้งแบบ Basic ที่เพียงคุณเพิ่มรายชื่อ Email ของลูกค้าที่คุณต้องการเข้าไป ระบบก็จะส่ง Email ไปถึงกลุ่มลูกค้านั้นได้ หรือแบบ Advance ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ก็จะช่วยค้นหากลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมการซื้อของตรงกับเป้าหมายที่คุณต้องการ และมีฟีเจอร์ขั้นสูงที่จะช่วยทำให้ Email ของคุณดูน่าสนใจและน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย

‍

‍

เครื่องมือทางการตลาดสำหรับการทำ Content (Content marketing tools)

Content marketing เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ใช้ Content สื่อสารออกไปเพื่อจุดประสงค์ทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นมอบความรู้ สร้างการจดจำแบรนด์ เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แลัเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าและบริการ

‍

หัวใจสำคัญของการสร้าง Content ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น บทความ วิดีโอ หรือรูปภาพ ที่คุณใช้เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้น คือความคิดสร้างสรรค์ ! ซึ่ง Content เหล่านี้จะถูกสื่อสารออกไปผ่านช่องทาง Email และ Social media ต่าง ๆ โดยเครื่องมือทางการตลาดสำหรับการทำ Content นั้นมีมากมายหลากหลาย สามารถช่วยให้คุณค้นหาประเด็นที่กำลังเป็นที่นิยมเพื่อนำมาพัฒนาและต่อยอด หรือจะเป็นการค้นหา Keyword ที่ผู้คนสนใจ ช่วยให้ Content เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้

‍

โดยเราจะมาแนะนำ 8 เครื่องทางการตลาดที่ธุรกิจของคุณต้องการกันครับ

‍

‍

1. HubSpot

เป็นชุดเครื่องมือซอฟต์แวร์สำหรับการทำ Inbound marketing ที่มีฟังก์ชันหลากหลาย ช่วยควบคุม จัดการกระบวนการทางการตลาด เก็บ Leads ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม และช่วยเพิ่มยอดขาย โดยเป็นการแก้ปัญหาการทำงานที่ไม่เป็นระบบและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น 

‍

‍

‍

2. Hootsuite

เป็นเครื่องมือที่จะช่วยจัดการ Social media ต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ มีฟีเจอร์ที่เชื่อมต่อบัญชีจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ช่วยให้ใช้งานได้อย่างสะดวก ตอบโจทย์การใช้งานบนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย มีคุณสมบัติในการตั้งเวลาโพสต์ จัดการเนื้อหา และวิเคราะห์ข้อมูล 

‍

‍

‍‍

3. Sendible

อีกหนึ่งเครื่องมือทางการตลาดสำหรับ Social media มีความสามารถในการบริหาร Social media ต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุมครบถ้วน ช่วยให้คุณกำหนดเวลาโพสต์ ตรวจสอบผลลัพธ์ และสร้างรายงานได้ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ เช่น WordPress, Medium, Canva, และ Dropbox ได้อีกด้วย

‍

‍

‍

4. Social Oomph

เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อตั้งเวลาโพสต์บน Twitter ผ่านระบบอัตโนมัติเป็นหลัก แต่สามารถใช้กับ Social media อื่น ๆ ได้เช่นกัน ใช้งานได้ง่าย สามารถอัปโหลดโพสต์หลายรายการพร้อมกัน และมีคุณสมบัติการวิเคราะห์ผู้ติดตามที่ช่วยให้การทำการตลาดของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

‍

‍

‍

5. SocialPilot

เป็นเครื่องมือจัดการ Social media ที่ครบวงจรในราคาประหยัด โดยถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการจัดการบัญชีบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ครบทุกแพลตฟอร์ม สามารถทำงานพร้อมกันได้หลายคน เพื่อตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้าได้นาน และช่วยจัดการเนื้อหาพร้อมวิเคราะห์ผลลัพธ์

‍

‍

‍

6. Sprout Social

เป็นเครื่องมือที่รู้จักกันดีในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล Social media เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยมีความโดดเด่นในเรื่อง CRM ง่ายต่อการใช้งาน ช่วยในเรื่องการมีส่วนร่วมและติดตามผลลัพธ์ผ่านตารางและแผนภูมิต่าง ๆ 

‍

‍

‍

7. Unbounce

เป็นเครื่องมือในการสร้าง Landing page ที่ง่ายต่อการใช้งาน ช่วยให้คุณสร้าง Landing page ที่มี Conversion rate สูง สร้างลูกค้า เพิ่มยอดติดต่อ โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดแม้แต่นิดเดียว มี Template พร้อมใช้งานให้เลือกมากกว่า 100 แบบ โดยมีโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับการสร้างแคมเปญการตลาดด้วย ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญได้อย่างรวดเร็ว

‍

‍

‍

8. MarketerHire

เป็นแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์เฉพาะทางที่เชื่อมโยงธุรกิจต่าง ๆ เข้ากับฟรีแลนซ์ที่ผ่านการรับรองที่สามารถให้บริการและตอบสนองความต้องการทางการตลาดของลูกค้า โดยแพลตฟอร์มจะคัดเลือกผู้เข้าร่วมเพียง 5% จากผู้สมัครในแต่ละเดือนเท่านั้น โดย MarketerHire เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีงบประมาณและต้องการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ

‍

‍

‍

{{CTA="/blog"}}