การทำการตลาดออนไลน์ไม่ได้วัดผลกันแค่เรื่องงบประมาณ แต่ยังขึ้นอยู่กับจังหวะการสื่อสารด้วย บางแบรนด์เลือกหัวข้อถูก แต่สื่อสารช้าเกินไป ขณะที่บางแบรนด์พูดเรื่องเดียวกันในช่วงเวลาที่เหมาะสม จึงสามารถสร้างกระแสและความสนใจได้มากกว่า
โดยเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้เห็นจังหวะเหล่านี้ได้ชัดขึ้น คือ Google Trends ถ้าอยากรู้ว่าเครื่องมือนี้สามารถช่วยธุรกิจได้จริงแค่ไหน วันนี้เราจะพาไปรู้จัก Google Trends แบบทุกซอกทุกมุม ไปดูกันเลย!
Google Trends คืออะไร

หากอธิบายแบบเข้าใจง่าย Google Trends คือเครื่องมือที่ใช้ดูความนิยมของคำค้นหาใน Google โดยจะแสดงผลออกมาเป็นกราฟ เปรียบเทียบความสนใจของผู้ค้นหาในแต่ละช่วงเวลา
สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ Google Trends ไม่ได้บอกจำนวนครั้งที่มีการค้นหาแบบตัวเลขตรง ๆ แต่บอกแนวโน้มหรือความนิยมเปรียบเทียบในช่วงเวลานั้น ๆ ว่าคำไหนถูกค้นหามากหรือน้อยกว่า
ข้อมูลทั้งหมดมาจากพฤติกรรมการค้นหาจริงของผู้ใช้ Google จึงสะท้อนความสนใจของตลาดในช่วงเวลานั้นได้ค่อนข้างแม่นยำ
Google Trends ใช้ดูอะไรได้บ้าง
เมื่อเข้าใจแล้วว่า Google Trend คืออะไร สิ่งต่อมาคือมันเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้ว Google Trends ใช้ได้มากกว่าที่หลายคนคิด
1. ดูแนวโน้มความสนใจของผู้บริโภค

Google Trends ช่วยให้เห็นว่าคนเริ่มสนใจเรื่องอะไร ลดความสนใจเรื่องไหน และความสนใจนั้นเป็นแค่กระแสระยะสั้น หรือกำลังเติบโตต่อเนื่อง เหมาะมากสำหรับการวางแผนคอนเทนต์และแคมเปญการตลาด
2. เปรียบเทียบคีย์เวิร์ดหรือแบรนด์

ธุรกิจสามารถใช้ Google Trends เปรียบเทียบคีย์เวิร์ดหลายคำพร้อมกัน เช่น ชื่อแบรนด์ ชื่อสินค้า หรือบริการ เพื่อดูว่าคนพูดถึงอะไรเยอะกว่าในช่วงเวลาเดียวกัน ข้อมูลนี้ช่วยตัดสินใจได้ว่าควรโฟกัสการสื่อสารไปที่คำไหนก่อน
3. ดูความสนใจแยกตามพื้นที่

อีกฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากคือการดูความนิยมแยกตามจังหวัดหรือประเทศ ช่วยให้แบรนด์เข้าใจว่าพื้นที่ไหนสนใจสินค้าหรือบริการมากเป็นพิเศษ เหมาะกับการทำ Local Marketing หรือวางแผนโฆษณาแบบเจาะพื้นที่
Google Trends มีประโยชน์กับธุรกิจอย่างไร
ช่วยเลือกหัวข้อคอนเทนต์ได้แม่นยำขึ้น
หลายธุรกิจทำคอนเทนต์สม่ำเสมอ แต่ไม่รู้ว่าหัวข้อที่ทำตอบโจทย์ความสนใจของคนจริงหรือไม่ Google Trends ช่วยยืนยันว่าหัวข้อไหนกำลังมา หัวข้อไหนควรพักไว้ก่อน ลดการทำคอนเทนต์ที่ตั้งใจดีแต่ไม่มีคนค้น
ช่วยจับกระแสก่อนคู่แข่ง
เมื่อเห็นแนวโน้มที่กำลังเริ่มขยับ ธุรกิจสามารถวางแผนสื่อสารล่วงหน้าได้ทันที แทนที่จะรอให้กระแสแรงแล้วค่อยกระโดดเข้าไป ซึ่งมักช้าเกินไป
ช่วยวางแผนแคมเปญตามฤดูกาล
หลายธุรกิจมีสินค้าหรือบริการที่ผูกกับช่วงเวลา เช่น เทศกาล หรือฤดูกาล Google Trends ช่วยให้เห็นแพตเทิร์นซ้ำ ๆ ในแต่ละปี ทำให้วางแผนการตลาดได้ล่วงหน้าและแม่นยำกว่าเดิม
ข้อจำกัดของ Google Trends ที่ควรรู้
แม้ Google Trends จะมีประโยชน์มาก แต่ก็ไม่ได้ตอบทุกอย่าง เครื่องมือนี้ไม่ได้บอก Search Volume แบบตัวเลข และไม่สามารถใช้แทนเครื่องมือ SEO เชิงลึกได้ทั้งหมด
Google Trends เหมาะกับการดูทิศทางมากกว่าการตัดสินใจเชิงเทคนิค เช่น การแข่งขันของคีย์เวิร์ด หรือความยากง่ายในการทำ SEO ซึ่งยังต้องใช้เครื่องมืออื่นประกอบ
ใช้ Google Trends ให้ได้ผล ต้องดูมากกว่ากราฟ
หลายคนเปิด Google Trends ดูกราฟแล้วจบ แต่การใช้ให้เกิดประโยชน์จริง ต้องนำข้อมูลไปเชื่อมกับบริบทธุรกิจ เช่น กลุ่มเป้าหมาย ช่องทางสื่อสาร และเป้าหมายของแบรนด์
กราฟที่กำลังขึ้น อาจไม่เหมาะกับทุกธุรกิจ และกราฟที่ดูนิ่ง อาจมีโอกาสซ่อนอยู่ หากรู้จักตีความอย่างถูกต้อง
BEP Digital Agency พร้อมช่วยวิเคราะห์ วางแผนกลยุทธ์ ด้วยการนำข้อมูลจาก Google Trends มาต่อยอดกับการทำ SEO, Content Strategy และพฤติกรรมผู้ใช้ เพื่อให้แบรนด์สื่อสารถูกจังหวะ และตรงกับความต้องการของตลาดจริง ติดต่อเราได้เลย!

