Marketing Funnel คืออะไร?

‍

‍

Marketing Funnel คือ ขั้นตอนการวางแผนที่จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ โดยในแต่ละระดับของ Marketing Funnel จะเป็นการเปรียบเทียบพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อทำการดึงดูดและโน้มน้าวกลุ่มเป้าหมายตลอดจนกระทั่งสร้างยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ

ซึ่งวิถีการทำการตลาดของ Marketing Funnel จะมีลักษณะคล้ายกับ “กรวย” ที่กว้างด้านบนลงไปแคบด้านล่าง เปรียบเสมือนในตอนเริ่มแรกที่คุณจะได้กลุ่มเป้าหมายที่มีจำนวนกว้างมาก ๆ และขั้นตอนต่อไปจะเป็นการคัดเลือกคนที่ใกล้เคียงเป็นลูกค้าของคุณที่สุด จนกระทั่งขั้นตอนสุดท้ายคุณจะได้ “ลูกค้าที่แท้จริง” อย่างสมบูรณ์

‍

‍

Marketing Funnel มีขั้นตอนอะไรบ้าง ?

‍

‍

‍

Awareness Stage 

อยู่ในขั้นของ Top of funnel คือ ขั้นตอนการรับรู้แบรนด์ เป็นขั้นตอนที่ช่วยทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ของคุณมากขึ้น โดยนักการตลาดมักจะหา Pain Point ของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อจะได้คิดและนำเสนอคอนเทนต์ที่แสดงให้เห็นว่า สินค้าหรือบริการของแบรนด์สามารถแก้ไขปัญหาของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไรบ้าง เป็นการทำให้กลุ่มเป้าหมายเปิดใจและยอมรับแบรนด์ของคุณได้นั่นเอง

‍

‍

Interest Stage

อยู่ในขั้นของ Middle of funnel คือ ขั้นตอนที่ลูกค้าเริ่มสนใจ อยากหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์เพิ่มเติม ในขั้นตอนนี้นักการตลาดจะนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด 

‍

‍

Consideration Stage

อยู่ในขั้นของ Middle of funnel คือ ขั้นตอนที่ลูกค้าพิจารณาและเปรียบเทียบแบรนด์ของคุณกับแบรนด์อื่น ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อจริง โดยในขั้นตอนนี้นักการตลาดจะต้องวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดต่าง ๆ เพื่อทำการโน้มน้าวและดึงดูดลูกค้า ทำให้เห็นว่าแบรนด์ของคุณโดดเด่นและไม่เหมือนใครในตลาด

‍

‍

Purchase Stage หรือ Conversion Stage 

อยู่ในขั้นของ Bottom of funnel คือ ขั้นตอนที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า ซึ่งในขั้นตอนนี้นักการตลาดมักจะใช้กลยุทธ์ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าที่จะซื้อสินค้าและบริการจากแบรนด์ของคุณเพื่อทำการปิดดีล 

‍

‍

Retention Stage 

อยู่ในขั้นของ Bottom of funnel คือ ขั้นตอนที่ต้องมีการสื่อสารกับลูกค้าเก่าเพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำ โดยอาจจะมีการให้ข้อเสนอพิเศษกับลูกค้าเก่าผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ ของแบรนด์

‍

‍

5 เทคนิคการทำ Marketing Funnel

‍

‍

1. Awareness การสร้างการรับรู้ของแบรนด์ นักการตลาดมักจะหา Pain Point ของกลุ่มเป้าหมายเพื่อที่จะทำคอนเทนต์ออกมาได้อย่างตรงจุด ซึ่งตัวช่วยพื้นฐานที่นักการตลาดส่วนใหญ่มักใช้ในการตอบปัญหา Pain Point ของกลุ่มเป้าหมาย มีดังนี้

‍

• Google โดยใช้ในการเสิร์ช Keyword ยอดนิยม เพื่อทำคอนเทนต์บทความ SEO ให้ติดอันดับบน Google เป็นการเพิ่มโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นแบรนด์ของคุณ
  ‍
• Youtube มีวิธีการที่คล้ายกับ Google ด้วยการเลือกใช้ Keyword ยอดนิยมในการตั้งชื่อวิดีโอหรือติดแฮชแท็ก เพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นแบรนด์ของคุณ
  ‍
• Tiktok ในปัจจุบันคลิปวิดีโอสั้น ๆ เป็นที่นิยมในการทำคอนเทนต์อย่างมาก อีกทั้งยังไวรัลได้ง่ายกว่าช่องทางโซเชี่ยลมีเดียอื่น ๆ หากคุณทำคอนเทนต์ทันกระแสและใช้แฮชแท็กยอดนิยมบนวิดีโอของคุณก็จะสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ได้อย่างกว้างขวางเลยทีเดียว
  ‍
• Influencer อีกหนึ่งวิธียอดนิยม เป็นการจ้างอินฟูลเอนเซอร์ในการโปรโมทแบรนด์ ซึ่งจะมีอินฟูลเอนเซอร์หลายระดับตั้งแต่ผู้ติดตามหลักพันจนถึงหลักแสน โดยคุณสามารถเลือกอินฟูลเอนเซอร์ให้เหมาะสมกับเป้าหมายทางการตลาดของคุณได้ เช่น ไลฟ์สไตล์ ความรู้ บุคลิกภาพ ฯลฯ

‍

‍

2. Interest เป็นขั้นตอนที่นักการตลาดตั้งใจสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีประโยชน์ เพื่อนำเสนอข้อมูลให้ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ซึ่งนักการตลาดมักจะใช้กลยุทธ์ Content Marketing ที่มีคุณค่า ส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์มากกว่าการเน้นขายของเพียงอย่างเดียว และนอกเหนือจากนี้คุณจะต้องอัปเดทคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ ตามเทรนด์ที่เป็นกระแสได้ยิ่งดี เพื่อแสดงให้เห็นว่าแบรนด์ของคุณไม่ได้ล้าหลังหรือมุ่งหวังขายเอายอดเพียงอย่างเดียว

‍

‍

3. Consideration เป็นขั้นตอนที่นักการตลาดจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ เพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายหันมาเลือกแบรนด์ของคุณ โดยกลยุทธ์ที่นักการตลาดนิยมใช้คือ การหาจุดเด่นของแบรนด์  สิ่งที่แบรนด์เชี่ยวชาญที่สุด และรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เป็นต้น\

‍

‍

4. Purchase หรือ Conversion เป็นขั้นตอนที่กระตุ้นให้ลูกค้าเกิดพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อ เช่น กลยุทธ์ที่นิยมใช้คือ การให้โปรโมชั่นส่วนลดต่าง ๆ ในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดพฤติกรรมตัดสินใจซื้อได้ทันที หรืออีกวิธีหนึ่งคือการอัปราคาสินค้าพร้อมกับเพิ่มสิทธิพิเศษเพิ่มเติมไปด้วย ให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าแก่การเสียเงินซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ

‍

‍

5. Retention ลูกค้าเก่าจะกลับมาซื้อซ้ำได้ก็ต่อเมื่อคุณมีบริการดูแลหลังการขายเป็นอย่างดี มีสิทธิพิเศษส่วนลดโปรโมชั่นต่าง ๆ สำหรับลูกค้าเก่าโดยเฉพาะ  พร้อมทั้งมีช่องทางการติดต่อสอบถามได้อย่างสะดวกสบาย เช่น Line Official, Facebook Page, และ Instagram เป็นต้น

และสิ่งสำคัญที่สุดที่นักการตลาดจะต้องโฟกัสระหว่างทำ Marketing Funnel นั่นก็คือ การตาม Retargeting/Remarketing ของลูกค้าแต่ละช่วง เพื่อดึงให้ลูกค้าที่ยังไม่เกิดการตัดสินใจซื้อ สามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น โดยอาศัยการเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับแต่ละระดับของ Marketing Funnel เช่น หากต้องการเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ เครื่องมือวิดีโออย่าง Tiktok ก็สามารถช่วยได้ หรือหากต้องการปิดการขายสินค้าหรือบริการ การยิง Ads โปรโมชั่นส่วนลดต่าง ๆ ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน

‍

ดังนั้นสรุปได้ว่า Marketing Funnel จะช่วยทำให้เข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น หากคุณรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายกำลังอยู่ในช่วงไหนของ Funnel คุณก็จะสามารถเลือกใช้เครื่องมือการตลาดได้อย่างเหมาะสมและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังช่วยให้กลุ่มเป้าหมายกลายเป็น “ลูกค้าที่แท้จริง” ของแบรนด์คุณได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย

‍

{{CTA="/blog"}}