หลังวิกฤติโควิด-19 ผ่านพ้นไป วิธีการทำงานแบบ Work from Home (WFH) กลายเป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นชินมากขึ้น โดยเฉพาะในเด็กรุ่นใหม่ที่เลือกให้ความสำคัญกับการ Work from Home เป็นอย่างมาก ทำให้หลายองค์กรมีการปรับรูปแบบการทำงานให้เหมาะกับพฤติกรรมของคนในองค์กรที่เปลี่ยนแปลงไป นโยบาย Work from Home จึงยังคงมีอยู่แม้การระบาดของโควิด-19 จะเบาบางลงแล้วก็ตาม
แม้คนในองค์กรจะอยู่กันคนละที่ แต่การทำงานยังคงต้องมีการประสานงาน มีการพูดคุยและประชุมกันอยู่ตลอด ทำให้เครื่องมือที่ช่วยในการ Work from Home ยังคงมีความสำคัญ บทความนี้จะมาแนะนำ 7 เครื่องมือที่ช่วยให้การ Work from Home ของคุณสะดวกมากยิ่งขึ้น
รู้จักการทำงานแบบ Work from Home ว่าคืออะไร?
Work from Home (WFH) คือการทำงานจากที่บ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาเข้าออฟฟิศ การทำงานในรูปแบบนี้จะใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัลเป็นตัวช่วยให้การทำงานของคนในองค์กรที่อยู่ไกลกันสะดวกและราบรื่นมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้อินเทอร์เน็ต การส่งอีเมล การประชุมออนไลน์ เป็นต้น โดยการทำงานในรูปแบบนี้เกิดขึ้นในปี 2020 จากเหตุการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้เกิดมาตรการล็อกดาวน์ (Lockdown) ในหลายประเทศ ส่งผลให้การทำงานแบบ Work from Home ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก
ทำไมถึงควร Work from Home ?
1. ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การ Work from Home ช่วยให้คนในองค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากมีความยืดหยุ่นในการทำงาน ไม่มีอาการเหนื่อยล้าจากการเดินทางไปทำงาน รวมถึงการทำงานอยู่บ้านช่วยเพิ่มความสุขอีกด้วย ส่งผลให้ได้งานที่มีคุณภาพมากกว่าการทำงานในรูปแบบอื่น
2. ลดเวลาการเดินทาง
การนั่งทำงานจากที่บ้านช่วยลดเวลาในการเดินทางและค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้เดินทาง เช่น ค่ารถโดยสาร ค่าน้ำมันรถ ฯลฯ รวมถึงทำให้มีเวลาส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการเดินทางไปทำงานอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวัน
3. ลดความเครียด
เมื่อไม่ต้องเดินทางไปที่ทำงานหรือเข้าออฟฟิศ ทำให้ช่วยลดความเครียดในการเดินทางของคนในองค์กรได้ เพราะในการเดินทางอาจต้องเจอการจราจรที่ติดขัด สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้เกิดความเครียดได้
4. มีเวลาส่วนตัวมากขึ้น
เมื่อไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงาน ทำให้ประหยัดเวลาการเดินทางไปได้หลายชั่วโมงต่อวัน ทำให้คนในองค์กรมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น มีเวลาไปทำกิจกรรมทั้งก่อนและหลังเลิกงาน เช่น ออกกำลังกาย ทำความสะอาดบ้าน ดูแลครอบครัว ฯลฯ ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
5. ลดค่าใช้จ่ายขององค์กร
ไม่ได้มีเพียงแค่คนในองค์กรเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ แต่องค์กรก็ยังได้ประโยชน์จากการ Work from Home ด้วย เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้กับองค์กร เช่น ค่าสาธารณูปโภค ค่าเช่าออฟฟิศของบางองค์กร สวัสดิการในออฟฟิศ ฯลฯ
7 เครื่องมือที่ช่วยให้การ Work from Home สะดวกมากยิ่งขึ้น
1. Notion
Notion คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณบริหารจัดการชีวิตประจำวันของคุณได้ง่ายขึ้น ถือได้ว่าเป็นแอปพลิเคชันที่ครบจบแบบ All in One เพราะสามารถทำได้ทั้งจดโน้ต จัดตารางชีวิต วางแผนการทำงาน จัดการโปรเจกต์ เป็นต้น
2. Slack
Slack คือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้สื่อสารและทำงานร่วมกันในทีม ช่วยให้คนในทีมสามารถติดต่อกันได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สามารถส่งข้อความ โทร หรือ Video Call ได้ โดย Slack นั้นถูกสร้างขึ้นในปี 2013 และได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงโควิด-19 ระบาด
3. Microsoft Teams
Microsoft Teams คือแพลตฟอร์มที่ใช้สื่อสารและทำงานออนไลน์ร่วมกันกับผู้อื่น โดย Microsoft Teams อยู่ในระบบของ Microsoft 365 ช่วยให้การทำงานของคุณสะดวกมากขึ้น เพราะสามารถแชท โทร หรือแชร์ไฟล์ให้กันได้ รวมถึงยังสามารถประชุมออนไลน์ได้อีกด้วย
4. Discord
Discord คือแพลตฟอร์มที่ไว้ใช้สื่อสารกันผ่านทางออนไลน์ ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับผู้อื่นได้ง่ายมากขึ้น ผ่านการส่งข้อความในแชท, ส่งรูปภาพ-วิดีโอ, โทรด้วยเสียง, Video Call หรือ Streaming แชร์หน้าจอก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย
5. Trello
Trello คือแพลตฟอร์มที่ใช้บริหารจัดการงานและโปรเจกต์ที่อยู่ในรูปแบบบอร์ดออนไลน์ รวมถึงสามารถติดตามสถานะการทำงานได้ด้วย โดยมีคอนเซปต์มาจากการทำ Kanban Board ช่วยให้คุณสามารถจัดการการทำงานหรือทำ Project Management ได้สะดวกมากขึ้น
6. Gather Town
Gather Town คือแพลตฟอร์มที่ใช้ประชุมออนไลน์ มีลักษณะคล้ายกับเกม Simulation ที่จำลองสถานที่และสถานการณ์ต่าง ๆ ในออฟฟิศ สามารถสร้างออฟฟิศจำลองให้ทุกคนเข้ามาทำกิจกรรม ประชุมออนไลน์ หรือเดินไปเดินมาเหมือนอยู่ในออฟฟิศจริง ๆ ได้
7. Miro
Miro คือแพลตฟอร์มที่มีลักษณะคล้ายกับไวท์บอร์ดออนไลน์ ช่วยให้ทีมของคุณทำงานแบบ Brainstorm ร่วมกันได้ง่ายมากขึ้น เพราะสามารถสร้างบอร์ดดิจิทัลไว้ใช้ระดมความคิด แชร์ไอเดีย หรือแสดงความคิดเห็นแบบ Real Time ได้
การ Work from Home จะไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยถ้าไม่มีเครื่องมือดิจิทัลที่ไว้ใช้ติดต่อสื่อสารและประสานงานกันในองค์กร โดยเครื่องมือที่เราแนะนำไปช่วยให้การทำงานร่วมกันในองค์กรราบรื่นขึ้น ลองไปเลือกใช้กันตามความเหมาะสมกับลักษณะงานของคุณดูนะคะ