Back

หลักการทำ SEO Off Page ให้ถูกต้อง เว็บไซต์ติดหน้าแรกเร็ว

หากใครที่เคยศึกษาเรื่อง SEO (Search Engine Optimization) มาบ้าง คงจะเคยได้ยินเรื่อง Off-Page SEO และ On-Page SEO อย่างแน่นอน ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ เป็นกลยุทธ์ในการทำ SEO ที่สำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งจะช่วยปรับแต่ง SEO ให้เว็บไซต์ของคุณนั้นสามารถอยู่ในอันดับที่ดีขึ้นบนหน้าผลลัพธ์การค้นหาบน Search Engine ได้ 

โดยในบทความนี้ เราจะมาอธิบาย การทำ Off-Page SEO กันครับ ตอบข้อสงสัยว่า Off-Page SEO คืออะไร มีความสำคัญต่อการทำ SEO อย่างไร การทำ Off-Page SEO นั้นต่างจาก On-Page SEO อย่างไรบ้าง และมีกลยุทธ์ในการทำอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้คุณพลาดในการทำเว็บไซต์ของคุณให้มีประสิทธิภาพ และติดอันดับที่สูงมากยิ่งขึ้นครับ

การทำ Off-Page SEO คืออะไร?

การทำ Off-page SEO หรือที่อาจจะรู้จักกันในชื่อ Off-site SEO คือการที่คุณพยายามที่จะปรับปรุง SEO ให้กับเว็บไซต์ของคุณ พยายามทำให้เว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับที่ดีขึ้นบนหน้าผลลัพธ์การค้นหาของ Search Engine โดยเป็นการทำ SEO บนเว็บไซต์และระบบอื่น ๆ หรือปัจจัยภายนอกที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของคุณเอง

เพราะนอกจากการปรับแต่งภายในเว็บไซต์ของตัวคุณเอง สร้างเนื้อหาบทความภายในเว็บไซต์ให้ตรงใจผู้อ่าน หรือที่เรียกว่าการทำ On-Page SEO จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพที่ดีในสายตาของ Search Engine แล้ว Google ยังพิจารณาการทำ Off-Page SEO สำหรับการจัดอันดับผลลัพธ์ในหน้าการค้นหาด้วยเช่นกัน

โดยวิธีที่นิยมใช้ในการทำ Off-Page SEO คือ การทำ Link Building หรือ Backlink ที่เชื่อมโยงมาจากเว็บไซต์อื่น ๆ, การทำให้แบรนด์ปรากฎบนโลกออนไลน์ เป็นที่พูดถึงในเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ข่าว หรือ Wikipedia รวมไปถึงการเพิ่มจำนวนแชร์บน Social Media, การรีวิวออนไลน์, หรือ Podcasts ต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณได้ในมุมมองของ Google Algorithm และเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ได้อีกด้วย

ทำไม Off-Page SEO ถึงสำคัญ?

Off-Page SEO เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ และเป็นสิ่งที่บอกกับ Search Engine ว่าเว็บไซต์ของคุณได้รับความนิยมและน่าเชื่อถือมากเพียงใด ซึ่งเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ (Authority) สูง ก็จะมีโอกาสที่จะถูกจัดอันดับอยู่ในลำดับต้น ๆ ของหน้าผลลัพธ์การค้นหา และเพิ่ม Traffic การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้

โดยการทำ Off-Page SEO เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ Google สามารถตรวจสอบเนื้อหา ข้อมูลของเว็บไซต์ และจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณผ่านการประมวลผลของ Google Algorithm 

seo off page

อีกทั้งการทำ Off-Page SEO นั้น จะต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากกว่าการทำ On-Page SEO และยากที่จะทำการแก้ไขหากมีข้อผิดพลาด ซึ่งหากมีการทำผิดพลาดเกิดขึ้น อาจถูกมองว่าเป็น Spam และส่งผลให้ Google ลดอันดับเว็บไซต์ของคุณลงได้ในทันที

ความแตกต่างระหว่าง On-Page SEO กับ Off-Page SEO

On-Page SEO คือการปรับปรุงทุกอย่างภายในที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการจัดรูปแบบเนื้อหาบทความ, Title tag / Meta title / Description, การปรับ Keyword, การปรับ URL, การทำ Internal Link, และการทำ Image alt text เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาภายในเว็บไซต์ของคุณได้ดียิ่งขึ้น และช่วยในการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น

ในขณะที่ Off-Page SEO เป็นการปรับปรุงจากปัจจัยภายนอกเว็บไซต์ของคุณ เช่น การสร้าง Backlink จากเว็บไซต์อื่น ๆ กลับมาที่เว็บไซต์ของคุณ, ถูกพูดถึงบนเว็บไซต์อื่น ๆ, 

ถึงแม้ว่าจะมีวิธีการที่แตกต่างกัน แต่ทั้ง On-Page SEO และ Off-Page SEO เป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยทำให้ SEO ประสบความสำเร็จทั้งคู่ โดยจำเป็นที่จะต้องทำทั้งสองอย่างเสริมกัน ไม่สามารถทำเพียงกลยุทธ์ใดกลยุทธ์เดียวได้ ซึ่งหากคุณทำทั้งสองกลยุทธ์นี้ร่วมกัน รับรองว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ได้ประสิทธิภาพอย่างแน่นอน !

กลยุทธ์ในการทำ Off-Page SEO

การทำ Off-Page SEO นั้นไม่ได้มีเพียงแค่การทำ Link Building หรือการทำ Backlink เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายกลยุทธ์ที่สามารถทำได้เช่นกัน ทั้งที่เกี่ยวกับลิงก์ และไม่เกี่ยวกับลิ้งก์

#1 การทำ Link Building / Backlink

เป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการทำ Off-Page SEO โดยเป็นการทำให้เว็บไซต์อื่นลิ้งก์มายังเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งจะส่งผลทำให้เว็บไซต์ของคุณนั้นได้รับความน่าเชื่อถือ และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับบน Search Engine

สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือ คุณภาพของลิ้งก์จากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ และควรเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณด้วย ไม่จำเป็นต้องหา Backlink จำนวนมาก แต่ควรเป็นลิ้งก์ที่มีคุณภาพที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น 

โดยคุณลักษณะที่สำคัญของ Backlink ได้แก่ 

  • มาจากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ (Domain Authority) สูง โดยคุณสามารถตรวจ Domain Authority ของเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ที่นี่
  • มาจากเว็บไซต์ที่มีการใช้งานจริง ไม่ใช้เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อยิง Backlink โดยเฉพาะ มี Organic Search Traffic สูง และมีจำนวนผู้ใช้งานค่อนข้างมาก
  • มาจากเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน เช่น หากเว็บไซต์ของคุณเกี่ยวกับรถยนต์ ก็ควรจะได้รับ Backlink ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ ยานพาหนะ เป็นต้น

#2 การทำ Brand Building

การทำ Brand Building หรือ การสร้างแบรนด์ อาจจะฟังดูไม่ได้เกี่ยวกับ SEO โดยตรง แต่หากแบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จัก และมีการค้นหาอยู่บ่อยครั้งบน Search Engine อย่าง Google ก็จะช่วยให้ Google นั้นมองว่า เว็บไซต์ของคุณน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ยิ่งถูกค้นหามากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะติดอันดับสูง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น มากไปกว่านั้นคุณอาจจะได้ Natural Backlink ที่เกิดจากการที่เว็บไซต์อื่น ๆ อ้างอิงเนื้อหาภายในเว็บไซต์คุณ โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินเลยก็เป็นได้

#3 การทำ Content Marketing

การทำ Content หรือบทความนั้น ไม่จำเป็นที่จะทำเพื่อ On-Page SEO เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สามารถช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ Off-Page SEO ได้เช่นกัน โดยการเขียนบทความที่มีประโยชน์ เรื่องน่ารู้ต่าง ๆ รูปภาพ Infographic และนำไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ 

เพราะบทความที่มีประโยชน์เหล่านี้จะดึงดูดให้ผู้คนเข้ามารับชม และแชร์บทความผ่านทาง Social Media เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้คุณได้รับความน่าเชื่อถือ เป็นที่รู้จักมากขึ้น และยังได้ Backlink ที่มีคุณภาพอีกด้วย

#4 การทำวิดีโอ และ Podcasts

วิดีโอบน YouTube, TikTok, Facebook, หรือ Instagram รวมไปถึง Podcasts นั้นเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งหากคุณสามารถสร้างวิดีโอและ Podcasts ที่มีประโยชน์ ดึงดูดผู้คนให้เข้ารับชม และสามารถส่งลิ้งก์กลับมายังเว็บไซต์ของคุณได้ ก็จะช่วยเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์ของคุณ และเป็นการเพิ่ม Brand Building ไปในตัวอีกด้วย

#5 การทำ Local SEO

การทำ Local SEO เป็นการทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกพบได้ง่ายมากขึ้นผ่านการนำเสนอข้อมูลบนพื้นที่ของ Google ที่เรียกว่า Google My Business เป็นเครื่องมือฟรีที่ Google สร้างขึ้นเพื่อให้ธุรกิจร้านค้าต่าง ๆ มีหน้าโปรไฟล์เป็นของตัวเองบน Google โดยคุณสามารถใส่ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เว็บไซต์ เวลาทำการ และรายละเอียดต่าง ๆ ได้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาเจอได้จาก Google Search และ Google Maps โดยการทำ Local SEO นั้นจะช่วยทำให้ Google Algorithm มองว่า เว็บไซต์ของคุณนั้นน่าเชื่อถือ มีที่อยู่ชัดเจน เป็นหลักเป็นแหล่งมากยิ่งขึ้นด้วย

#6 การใช้ Social Media

ในปัจจุบันผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากกว่า 90% ล้วนเป็นการใช้งาน Social Media ทั้งสิ้น ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการให้ลูกค้าหรือผู้ที่สนใจติดตามและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ การใช้ Social Media จึงถือเป็นการทำ Brand Building ด้วย

และแม้ว่า Backlink ที่ได้จากช่องทาง Social Media นั้นจะเป็นลิ้งก์ประเภท NoFollow แต่หากมีการแชร์ข้อมูล มีการกดไลค์ แสดงความคิดเห็น หรือมีการ Engage อื่น ๆ ในปริมาณที่มากพอ ก็จะช่วยทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพได้เช่นกัน

#7 การทำ Influencer Marketing

Influencers หรือกลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อและการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และเผยแพร่สิ่งเหล่านี้บน Social Media เพื่อสร้างผู้ติดตาม คล้ายการตลาดแบบปากต่อปากนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

โดยคุณสามารถใช้การทำ Influencer Marketing มาช่วยในการทำ Off-Page SEO ได้เช่นกัน เป็นการร่วมมือกับ Influencer ที่เชี่ยวชาญในด้านธุรกิจของคุณ อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ให้พวกเขาช่วยรีวิวผลิตภัณฑ์ แนะนำผลิตภัณฑ์ของคุณแก่ผู้ติดตาม หรือแชร์บทความของคุณผ่านช่องทาง Social Media ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น และสร้าง Traffic กลับมายังเว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย

#8 การจัด Events

การจัด Events หรือสัมมนาออนไลน์เป็นสิ่งที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการประชาสัมพันธ์แบรนด์ และทำ Brand Building ไปในตัว ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้คน มากไปกว่านั้นยังมีโอกาสที่จะได้ Backlink จากสื่อที่กระจายข่าวออกไป เว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือแชร์สรุปงาน Events จากบรรดา Influencers ช่วยเสริมการทำ Influencer Marketing ได้อีกด้วย

#9 การเขียนบทความ Guest Blogging

การเขียนบทความ Guest Blogging เป็นการอาสาเขียนบทความให้กับเว็บไซต์อื่น ๆ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เว็บไซต์อื่นส่ง Backlink กลับมายังเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งคุณสามารถติดต่อเว็บไซต์ที่เป็นที่รู้จัก มีความน่าเชื่อถือสูง และเสนอตัวที่จะเขียนบทความที่มีประโยชน์ให้กับพวกเขาได้ โดยคุณอาจจะแทรกลิ้งก์กลับไปยังเว็บไซต์ของคุณ หรือระบุเว็บไซต์ของคุณไว้ในโปรไฟล์ของผู้เขียนก็ได้เช่นกัน

#10 การทำ Forums Marketing

Forums หรือที่อาจจะรู้จักกันในชื่อเว็บบอร์ดหรือเว็บกระทู้ อย่างเช่น pantip.com เป็นต้น ซึ่งเป็นพื้นที่ของการสอบถาม รีวิว ให้คำแนะนำต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมในการค้นหาข้อมูล โดยคุณสามารถเข้าไปเขียนให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ หรือตอบคำถามต่าง ๆ รวมถึงแปะลิ้งก์กลับมายังเว็บไซต์ของคุณได้ เพื่อช่วยเพิ่ม Traffic ใหม่ ๆ และทำให้แบรนด์ของคุณดูน่าเชื่อถือมากขึ้นอีกด้วย

การทำ Off-Page SEO นั้นเป็นกลุยุทธ์ในการทำ SEO ที่สำคัญไม่แพ้การทำ On-Page SEO เลย เป็นการบอกกับ Google ว่าเว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือและได้รับความนิยมมากเพียงใด ซึ่งคุณจำเป็นที่จะต้องวางแผนในการทำ Backlink ให้ดีและเป็นธรรมชาติมากที่สุดเพื่อป้องกันการถูกเข้าใจผิดว่าเป็น Spam ได้

โดยทุกขั้นตอนในการทำ SEO ไม่ว่าจะเป็น On-Page SEO หรือ Off-Page SEO ล้วนเป็นสิ่งสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้าม และจำเป็นต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะถ้าข้อผิดพลาดระหว่างการทำ อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่ออันดับของเว็บไซต์บนหน้าผลลัพธ์การค้นหาได้ 

หากคุณกังวลในการทำ SEO ด้วยตนเอง คุณสามารถสามารถปรึกษาและว่าจ้างบริษัทผู้เชี่ยวชาญที่รับทำ SEO ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้ ซึ่งย่อมได้ประสิทธิภาพที่มากกว่าอย่างแน่นอน หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่อง Off-Page SEO ได้มากยิ่งขึ้น เพื่อได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่คุณตั้งไว้มากที่สุดนะครับ

{{CTA="/blog"}}

Blogs Recommended

Back to top